หนึ่งในเกม FPS ระดับโลกที่หลายคนให้การติดตามและเฝ้ารอคอย ด้วยกราฟฟิกระดับที่คนเล่นหลายคนต้องร้อง Cry เพื่อทุ่มงบในการอัพสเปคมันมาแล้วหลายต่อหลายคน อีกครั้งเป็นเกมที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในเกมมาก และด้วยความอลังการของภาค 2 ทำให้หลายคนเฝ้ารอคอยการมาถึงของภาค 3 ที่จะเป็นการปิดฉากบทสรุปเรื่องราวทั้งหมด แล้วผลสรุปเป็นยังไงเหรอ ? มาดูกันครับ
สำหรับเหตุการณ์ในจักรวาลของ Crysis นั้นเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ในภาคแรก ที่ตัวเอกเป็นนาวิกโยธิน สวมใส่ชุดนาโนสูทรัดรูปไปช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ที่ไปสำรวจเกาะแห่งหนึ่งแถวฟิลิปปินส์แล้วโดนกองกำลังเกาหลีเหนือบุกยึด ซึ่งปรากฎว่าสิ่งที่ศึกษามันก็คือเทคโนโลยีของเอเลี่ยนที่หลับไหลมาเป็นพันปีแต่ดันไปกดสวิตซ์ให้มันตื่นขึ้น 3 ปีต่อมา เหล่าเอเลี่ยนได้คุกคามโลก แต่ทว่าเมื่อการปราบเอเลี่ยนที่เมืองนิวยอร์กเสร็จสิ้น เหตุการณ์มันยังไม่จบง่ายๆ เมื่อกองกำลัง CELL ได้ใช้เทคโนโลยีเอเลี่ยนมายึดครองโลก สร้างโดมขนาดใหญ่ขึ้นล้อมรอบเมืองสำคัญต่างๆ ในโลก (แต่ที่เราบุกตะลุยมันก็คือเมืองนิวยอร์กนะแหละ) และในเมื่อกองกำลังทหารที่ต่อต้าน CELL สู้พวกมันไม่ไหว จึงต้องปลุกชีพยอดตำนานที่เป็นคนเดียวที่ยังใส่ชุดนาโนสูทมา 24 ปีโดยที่ไม่ถอดมาซัก นั่นก็คือ Prophet บุคคลผู้เดียวที่สามารถสยบเอเลี่ยนได้ทั้งภาคแรกและภาคสอง
ถ้าคนไหนไม่เคยเล่นเกมนี้มาเลยสักภาค อาจจะนึกว่า Prophet นั้นเป็นผู้กล้าที่สามารถยืนยันมาได้ถึงสามภาค แต่อันที่จริงต้องบอกกันตรงๆ เลยว่า Prophet นั้นตัวจริงฆ่าตัวตายไปตั้งแต่ภาค 2 แล้ว! พระเอกในภาคสองนั้นชื่อ Alcatraz เป็นนาวิกโยธินดวงเกือบซวยที่โดนเอเลี่ยนถล่มจน Prophet ที่ติดเชื้อจากเอเลี่ยน เอาชุดสูทให้ใส่เพราะรู้ว่าตัวเองไม่รอดแน่ก่อนที่จะยิงตัวตาย ในเหตุการณ์จบภาคสองนั้น มีดวงจิตของ Prophet ปรากฎออกมาซ้อนจิตกับ Alcatraz โดยเขาบอกว่า จิตของเขากับชุดนาโนสูทหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว และเขากับ Alcatraz จะร่วมมือกันในร่างเดียวเพื่อรับมือกับเหล่าเอเลี่ยนที่รุกรานโลก
คนไหนไม่เคยเล่นคงสงสัยแน่ชุดสูทที่ว่ามันคืออะไร ? ชุดนาโนสูทนั้นเป็นชุดเกราะแบบติดตัวคนใส่ ที่มีความสามารถรอบด้าน ทั้งเพิ่มความแข็งแกร่ง , เพิ่มเกราะทำให้ยิงกระสุนไม่เข้า (แต่โดนยัดหลายนัดก็อาบเลือดเหมือนกัน) รวมไปถึงสามารถพรางตัวไปได้โดยที่เรดาร์ตรวจจับไม่เจอ เทคโนโลยีสูทนี้ได้รับการเฉลยจากภาคสองว่าเป็นเทคโนโลยีของพวกเอเลี่ยนเนี่ยแหละ (ก็ไม่น่าแปลกเพราะชุดมันลํ้ายุคเกินไป) และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ชุดนี้สามารถทำให้คนใช้สามารถเชื่อมต่อสัญญาณกับพวกเทคโนโลยีของเอเลี่ยนได้อีกด้วย แต่ก็ได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
องค์ประกอบหลายๆ อย่างของเนื้อเรื่องในเกมนี้จะเป็นเหมือนหนัง Sci-Fi ดีๆ ซักเรื่อง แต่ต้องบอกว่า Crysis เป็นเกมที่หากคนเล่นเอาแต่เล่นเกมอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้ไปหาข้อมูลอื่นๆ เช่น หนังสือการ์ตูนคอมมิคมาอ่าน จะไม่รู้เรื่องเลยว่าเนื้อเรืองมันต่อกันได้ยังไง ไม่มีการเฉลยเลยว่าชะตากรรมของตัวเอกภาคแรกเกิดอะไรขึ้น (ในภาคสาม คาดการณ์กันว่าตายไปแล้ว) รวมไปถึง Alcatraz ที่ไม่รู้ว่าหลังจากโดน Prophet มาหลอมรวมจิตในร่างเดียวกันแล้วยังเหลือจิตใต้สำนึกอีกไหม (ภาคสามไม่มีปรากฎตัวหรือเอ่ยถึงเลย) จึงทำให้เนื้อเรื่อง Crysis อาจดูแปลกๆ ไปก็ได้
ถึงเนื้อเรื่องในเกมนี้จะดูไม่ต่อเนื่องและแอบงงสักหน่อย แต่ในภาคสามนี้เนื้อเรื่องพยายามหาคนเล่นกลับเข้าสู่ต้นกำเนิดเกมจริงๆ นั่นก็คือภาคแรก ทั้งการเอ่ยถึงเหตุการณ์ต่างๆ รวมไปถึงเกมเพลที่อ้างอิงแนวการเล่นจากในภาคแรกมากขึ้นด้วย โดยในภาคสองนั้นวิธีการเล่นมักจะเป็นเส้นตรงและเน้นปะทะกับศัตรูซะส่วนใหญ่ แต่ในภาคสามนี้พื้นที่การปะทะจะใหญ่ขึ้นทำให้คนเล่นเลือกได้ว่าจะบุกตะลุยไปแบบแรมโบ้ หรือว่าจะแอบเนียนลอบเร้นเข้าไปปฏิบัติโดยไม่ฆ่าใครเลยก็ได้ (ซึ่งก็ไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้นกับฉากจบ) ทำให้การเล่นในภาคสามมีทางเลือกที่หลากหลายกว่าเดิม
น่าเสียดายที่แนวทางการเล่นแบบนี้มีให้เล่นราวๆ แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะเนื้อเรื่องของเกมภาคสามนั้นสั้นมาก และน่าจะสั้นกว่าในบรรดาทั้งสามภาคด้วย!! ตัวเนื้อเรื่องนั้นคนเล่นสามาถรถเคลียรได้ภายใน 5 – 6 ชั่วโมงเท่านั้น ในขณะที่ภาคแรกและภาคสองยังต้องใช้เวลาเล่นถึง 8 – 10 ชั่วโมงถึงจะเคลียรได้ (โดยเฉพาะภาคสองที่จัดเต็มทั้งฉากและเนื้อเรื่องมาแบบไม่กั๊ก) จึงทำให้เนื้อเรื่องเหมือนจะดำเนินไปเร็วขึ้นกว่าเดิม และยังให้คนเล่นสัมผัสตัวเกมในการผ่านด่านได้ไม่ยากด้วย โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายที่มีกระสุนอัดใส่ศัตรูกันแบบไม่อั้นและสภาพแทบกึ่งอมตะหากใช้สภาพแวดล้อมให้เป็นประโยชน์
ถึงเนื้อเรื่องจะสั้น แต่ตัวเกมก็ยังมอบประสบการณ์การเล่นที่น่าจดจำและหลากหลายมาให้คนเล่นหลายฉาก ตั้งแต่ฉากสภาพแวดล้อมที่เมืองนิวยอร์ถูกโดมล้อมรอบเอาไว้ส่งผลทำให้เป็นป่าเขตร้อนและไร้ที่อยู่อาศัย (ป่าคอนกรีตของแท้) สิ่งปลูกสร้างขององค์กร CELL ผู้ชั่วร้ายที่น่าทึ่ง ไปจนถึงศึกปะทะวันสิ้นโลกกับเหล่าเอเลี่ยนที่โชว์ฉากสุดอลังการมากันแบบไม่กั๊ก ทุกฉาก ทุกสถานที่ สวยงาม สมจริง และน่าตื่นตาจนทำให้คนเล่นอาจจะไม่ได้สนใจมัวยิงศัตรูแต่อาจมองดูฉากรอบๆ ด้วยความตื่นเต้นก็ได้ เพราะว่าตัวเกม Crysis นั้นเป็นเกมที่ขายกราฟฟิกอยู่แล้ว ฉากทุกอย่างจึงสวยงามมาก
โดยเฉพาะในภาคสามนี้การพัฒนากราฟฟิกทำออกมาได้สวยงาม สมจริงยิ่งขึ้นกว่าเดิม บางฉากเหมือนในภาพถ่ายเสียจนแยกกันไม่ออกเลยว่ามันเป็นเกม แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องแลกมาก็คือสเปคคอมต้องระดับแรงจริงๆ ถึงจะสามารถรันภาพมาแบบ HD ได้ แต่ตัวภาคสามนี้ถ้าคนไหนคอมไม่แรงเท่าไหร่นัก แต่ยังสามารถเสพภาพสวยๆ งามๆ ได้อยู่ดี เรียกได้ว่าแค่เข้าไปเสพภาพต่างๆ ในเกม ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการรอคอยเลยก็ว่าได้ (ถ้าไม่นับเรื่องโหมดเนื้อเรื่องมันสั้นไปเกือบครึ่งหนึ่งเลยอะนะ)
เสียงประกอบเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เกมนี้อลังการทั้งงานภาพและเสียง เสียงในภาคสองดีอย่างไร ในภาคสามนี้ก็ดีอย่างนั้น เสียงพากษ์สื่อถึงอารมณ์ในเกมได้ดีมาก (ยิ่งได้ทีมพากษ์เกมจากภาคแรกมาเสริมทัพด้วยแล้วทำให้คนเล่นได้เสมือนเจอสหายเก่าที่ไม่ได้เจอมานาน) เสียงปะทะ เสียงสภาพแวดล้อมต่างๆ ทำออกมาได้อลังการมาก
ทีเด็ดของการนำเสนอในเกมภาคสามก็คงไม่พ้นโหมดมิลติเพลเยอร์ ที่นอกจากจะเอาโหมดสุดฮิตอย่างยึดพลังงานเอเลี่ยนหรือ Team Death มาให้เล่นกันแล้วยังเพิ่มโหมดใหม่ๆ มาให้เล่น อย่างเช่น Hunter ที่จะสุ่มคนเล่นเป็นคนในชุดนาโนสูทสภาพล่องหนถือธนูตลอดเวลาไล่ล่าคนเล่นที่เหลือที่เป็นมนุษย์ธรรมดาไม่มีชุดสูทใส่และต้องเอาตัวรอดให้ได้จนหมดเวลา , โหมดชิงวัตถุพลังงานของฝ่าย CELL ที่ชวนลุ้นระทึก หรือโหมดยึดพื้นที่เป็นต้น ซึ่งยังคงสร้างความหรรษาในการเล่นได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะเมื่อมีการปลดล็อคอาวุธและสกินอีกเพียบเพื่อทำให้เกมนี้มีคนมาเล่นอยู่ได้ยาวๆ (เกม Crysis 2 เป็นเกมที่ขึ้นชื่อว่าเล่นโหมดมิลติเพลเยอรฺ์ได้สนุกมากครับ)
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของตัวเกมภาคนี้ถ้าไม่นับเรื่องเนื้อเรื่องที่สั้นแล้ว ตัวเกมเหมือนจะเอาของเก่ามาหากินใหม่ ไล่ตั้งแต่พวกอาวุธต่างๆ วิธีการเล่นที่มีปรับเปลี่ยนบ้างเล็กน้อย นอกจากอาวุธของเอเลี่ยนแล้วคนเล่นจะได้เห็นอาวุธจากภาคสองยกเซตมาทั้งหมด และฉากต่างๆ มีบางฉากที่เหมือนจะเอาของภาคสองเอามาสร้างใหม่อีกด้วย ถามว่ามันแย่ไหม ? มันก็ไม่แย่หรอก ดีเสียอีกที่เราจะได้เห็นของใหม่ๆ สภาพแวดล้อมใหม่ๆ ที่เราไม่มีทางได้เห็นในเกมอื่น ซึ่งจริงๆ แล้วน่าเสียดายในส่วนของเนื้อเรื่องที่้สั้นเสียมากกว่า มันราวกับว่าทีมพัฒนาเกมเริ่มหมดมุขในการสานต่อเนื้อเรื่อง ส่วนตัวคนเขียนแล้ว คิดว่าภาคสองเนื้อเรืองยังดีกว่านี้เลยครับ
สำหรับคอเกม FPS Hardcore ทั้งหลายนั้น ถ้าคอมของคุณสเปคแรงมาก และอยากสัมผัสเกม FPS สุดอลังการที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดในโลกนี้ และคุณเคยผ่าน Crysis ทั้งสองภาคมาก่อน ก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่คุณจะปฏิเสธตัวเกมภาคนี้ ด้วยการสานต่อเรื่องราวและกระโจนเข้าสู่โหมดมิลติเพลเยอร์ไล่ซัดยิงกับชาวบ้านในชุดนาโนสูทผ่านระบบออนไลน์ ถ้าคุณรักเกมที่ภาพสวยๆ เสียงอลังๆ ละก็ รับรองไม่ผิดหวัง แต่ถ้าคนไหนอยากได้เกมที่เล่นยาวๆ กว่านี้ อาจจะผิดหวังซักหน่อยกับความสั้นของเกมครับ
ในส่วนของร้านอินเตอร์เน็ต… คงทราบดีนะครับว่าตัวเกมนี้มีราคาสูงถึง 1,499 บาทเลยทีเดียว (เวอร์ชั่นธรรมดายังไม่มีขาย) ซึ่งโหมดมิลติเพลเยอร์ก็ไม่มี Lan มาให้ ออนไลน์เรียงเครื่องล้วนๆ คงไม่คุ้มแน่ถ้าเอามาให้เล่นแค่ 5 – 6 ชั่วโมง ถ้าอยากให้ลูกค้าเล่นโหมดเนื้อเรื่องละก็ ลองซื้อภาค 2 จาก Steam ลงดีกว่าไหม ? เพราะราคาถูกกว่าครึ่ง แถมเนื้อเรื่องยาวกว่า สำคัญคือเรื่องภาพและความอลังการของเกมยังจัดเต็มไม่แพ้ภาคสามเลย หรือจะซื้อภาคแรกมาลงก่อนก็ได้ ภาคแรกนั้นเล่นมัลติเพลเยอร์แบบ Lan กันได้ด้วยนะครับ
จุดเด่น
– จัดเต็มกราฟฟิกในเกมให้สวยงามอลังการมากขึ้น
– สภาพแวดล้อมที่น่าตื่นตา หลากหลาย แปลกตา และน่าจดจำ
– เนื้อหาการเล่นที่ไม่ยาก ทำให้คนเล่นเข้าถึงตัวเกมได้อย่างง่าย โดยเฉพาะคนที่ผ่านภาคสองมาก่อนแล้ว
– รำลึกถึงต้นฉบับตัวเกมภาคแรก โดยการอ้างอิงเนื้อเรื่องและระบบการเล่นแบบเดียวกับภาคแรกบ้าง
– ถึงจะยังมีอะไรไม่เคลียร์ในเรื่องของเนื้อเรื่อง แต่ก็ปิดฉากได้ประทับใจ
– มัลติเพลเยอร์ที่ไม่ได้เอาของภาคสองมาหมดเฉยๆ แต่ยังเพิ่มโหมดใหม่และลูกเล่นให้มีความสนุกมากขึ้น ในรูปแบบการเล่นที่คุ้นเคย
ข้อเสีย
– การเล่น 5 – 6 ชั่วโมง สั้นไปไหมกับการรอคอย ?
– เนื้อเรื่องยังไม่เคลียรและต้องให้คนเล่นไปตามหาข้อมูลเสริมกันเอง เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอกภาคแรก ? แล้ว Alcatraz ตายไปแล้วรึยัง ?
– บู๊แหลก กับลอบเร้นที่ผู้พัฒนาโฆษณานักหนา สุดท้ายใช้ได้แค่ครึ่งเดียวของเกม นอกนั้นบู๊แหลกเหมือนเดิม
– แอบทรมาณสเปคคอมมากขึ้นเนื่องจากเพิ่มฉากต้นไม้ธรรมชาติมากขึ้น ฉากจึงสวยขึ้น คอมคนไหนไม่แรงก็ต้องทำใจ
– คนเล่นจำเป็นต้องผ่านตัวเกมตั้งแต่ภาคแรกมา ไม่อย่างนั้นอาจมึนงงกับเรื่องราวของตัวเกมได้
Crysis 3 มีวางจำหน่ายแล้วผ่านทางร้าน DKS ในราคา 1,399 บาท
ลิ้ง – http://www.digitalkeystore.com/crysis3
สำหรับร้านเน็ต ตัวเกมนี้ Newera นำเข้ามาวางจำหน่าย เมื่อสั่งซื้อกับ Newera แล้วต้องการซื้อลงเพิ่มเพื่อให้ลูกค้ามาเล่นมิลติเพลเยอร์ออนไลน์ สามารถสั่งซื้อกับร้าน DKS ได้ในราคา 1,399 บาท (ถูกกว่า 100 บาท)
ลิ้ง – http://www.digitalkeystore.com/crysis3
หรือ… ลองซื้อภาคแรกและภาคสองลงร้านดูก่อน ซึ่งส่วนตัวแนะนำแบบนี้ เพราะราคาถูกกว่าเยอะมากทั้งๆ ที่ตัวเกมอลังไม่แพ้กันเลย
Crysis ภาคแรก (เล่น Lan กันเองได้ด้วย) > http://store.steampowered.com/app/17300/?snr=1_7_7_151_150_1
Crysis ภาค2 (ไม่มี Lan แต่เนื้อเรื่องจัดเต็ม) > http://store.steampowered.com/app/108800/?snr=1_7_7_151_150_1
