เรื่องราวเบื้องหลังของ มุอิมิ และภูมิหลังของเธอที่คนเล่น “อาจคาดไม่ถึง”
มุอิมิ หรือ โนเวม หนึ่งในตัวละครลิมิตกลุ่มตู้ปรี้นเซสเฟส ที่มีคนเล่นหลายคนหยิบเธอมาใช้ผ่านด่านและเป็นตัวแบกทีมหลายครั้งจนคนเล่นที่ยังไม่ทีแทบจะกรีดร้องจนโหยหารอวันที่จะเปิดเอาเธอให้ได้
.
แต่หารู้ไม่ว่า เห็นท่าทางที่ดูทอมบอย ร่าเริงสดใส เดินหน้าฟันดะแบบไม่กลัวอะไรแบบนี้ แท้จริงแล้วมุอิมิ หรืออีกชื่อ คือ “โนเวม” กลับมีเรื่องราวเบื้องหลังที่คนเล่นอาจคาดไม่ถึงอยู่
** โพสนี้จะมีการสปอยเนื้อหาของเกมภาคแรก ไม่เคยเล่นมาก่อนไม่มีปัญหาเพราะเกมปิดไปแล้ว และรู้ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน สรุปก็คืออ่านๆ เถอะนะ (ฮา)
** อย่างไรก็ตาม จะมีการ #สปอย เนื้อหาในเนื้อเรื่องหลัก (ในส่วนที่อัพเดตไปแล้วแต่จะไม่มาก) ซึ่ง “จะเป็นการเติมเต็มเนื้อหาเกมหลักในเวลานี้ของเซิร์ฟไทยอีกด้วย **
.
เนื้อหาบทความโดย YunYan Gaming
เรียบเรียงเนื้อหาและทำโพสโดย แอดมินเองเด้อ
โลกของเกม “แอสทรูม” ก่อนเหตุการณ์ทุกอย่างจะเริ่มต้น
.
“เลเจนท์ ออฟ แอสทรูม” คือชื่อของเกม VRMMORPG เกมออนไลน์เสมือนจริง ซึ่งเป็นโลกที่แท้จริงของเกมนี้ และยังคงมีคนเล่นหลายคนยังไม่รู้ตัวกันว่าตัวเองติดอยู่ในเกม และคิดว่าชีวิตประจำวันที่อยู่นี้คือโลกจริงๆ ของทุกคน
.
เกม “เลเจนท์ ออฟ แอสทรูม” เป็นเกมที่พัฒนาโดย “วิสดอม” ซึ่งเป็นองค์กรของสหประชาชาติ โดยมีประเทศมหาอำนาจ เช่นอเมริกา และประเทศแห่งหนึ่งให้การสนับสนุน (ราชวงศ์ของประเทศบ้านเกิดของยูสเทียน่า หรือเปโกรีน เป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุน) แม้ว่าดูภายนอกเหมือนจะเป็นเกมที่ทุกคนสามารถเข้าไปเล่นสนุกสนานกันได้ด้วยอุปกรณ์เข้าเกมที่เป็นหูฟังก็ตาม
.
(เกร็ด : วิสด้อม = World Intelligence-Society Doctrine Of the Moderns = 現代世界情報社会政策会議 องค์กรดูแลสังคมข้อมูลโลกปัจจุบัน)
.
แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังของการพัฒนาเกมนี้ กลับมีอะไรแอบแฝงอยู่
.
“เลเจนท์ ออฟ แอสทรูม” คือชื่อของเกม VRMMORPG เกมออนไลน์เสมือนจริง ซึ่งเป็นโลกที่แท้จริงของเกมนี้ และยังคงมีคนเล่นหลายคนยังไม่รู้ตัวกันว่าตัวเองติดอยู่ในเกม และคิดว่าชีวิตประจำวันที่อยู่นี้คือโลกจริงๆ ของทุกคน
.
เกม “เลเจนท์ ออฟ แอสทรูม” เป็นเกมที่พัฒนาโดย “วิสดอม” ซึ่งเป็นองค์กรของสหประชาชาติ โดยมีประเทศมหาอำนาจ เช่นอเมริกา และประเทศแห่งหนึ่งให้การสนับสนุน (ราชวงศ์ของประเทศบ้านเกิดของยูสเทียน่า หรือเปโกรีน เป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุน) แม้ว่าดูภายนอกเหมือนจะเป็นเกมที่ทุกคนสามารถเข้าไปเล่นสนุกสนานกันได้ด้วยอุปกรณ์เข้าเกมที่เป็นหูฟังก็ตาม
.
(เกร็ด : วิสด้อม = World Intelligence-Society Doctrine Of the Moderns = 現代世界情報社会政策会議 องค์กรดูแลสังคมข้อมูลโลกปัจจุบัน)
.
แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังของการพัฒนาเกมนี้ กลับมีอะไรแอบแฝงอยู่
การทดลอง “มนุษย์ที่มีพลังพิเศษ”
.
หนึ่งในเป้าหมายของ “วิสดอม” องค์กรของสหประชาชาติที่พัฒนาเกม “เลเจนท์ ออฟ แอสทรูม” นี้ขึ้นมาก็คือ “การทดลองมนุษย์ที่มีพลังพิเศษ” งานบังหน้าของ วิสดอม นั้นแม้ว่าจะบอกว่าเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยในโลกอินเตอร์เน็ต แต่เบื้องหลังคือจับคนมาทดลอง
.
และหนึ่งในคนที่ถูกบังคับร่วมโครงการทดลองที่ว่านั่นก็คือ “โนเวม” หรือ “มุอิมิ” ที่พวกเรารู้จักกันดีนั่นเอง ซึ่งนั่นก็เพราะว่า ตัวโนเวมเองนั้นในโลกจริงเธอก็มีพลังจิตเช่นกัน (ในตอนเด็กๆ เธอใช้พลังนี้ในการจัดการพวกเด็กเกเร และนั่นทำให้เธอได้เจอกับอ็อคโต้ครั้งแรกในโลกแห่งความเป็นจริง)
.
จุดสังเกตได้ว่า เหล่ามอนสเตอร์ในเกมนั้นจะมีพลังพิเศษที่แตกต่างจากพลังที่ผู้เล่นมี นั่นคือผลจากการทดลองของโนเวม ที่เป็นการใช้พลังของโนเวมจากการทดลองนั่นเอง ซึ่งหมายความว่า โนเวม เป็นแม่แบบของพลังพิเศษที่มีในโลกของแอสทรูม แปลว่า เดิมทีนั้น โนเวม ควรจะมีพลังเทพหรือได้แบบที่ฮาสึเนะใช้ หรืออาจมากกว่าด้วย
.
แต่ทว่า โนเวมกลับใช้ในเกมไม่ได้
.
หนึ่งในเป้าหมายของ “วิสดอม” องค์กรของสหประชาชาติที่พัฒนาเกม “เลเจนท์ ออฟ แอสทรูม” นี้ขึ้นมาก็คือ “การทดลองมนุษย์ที่มีพลังพิเศษ” งานบังหน้าของ วิสดอม นั้นแม้ว่าจะบอกว่าเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยในโลกอินเตอร์เน็ต แต่เบื้องหลังคือจับคนมาทดลอง
.
และหนึ่งในคนที่ถูกบังคับร่วมโครงการทดลองที่ว่านั่นก็คือ “โนเวม” หรือ “มุอิมิ” ที่พวกเรารู้จักกันดีนั่นเอง ซึ่งนั่นก็เพราะว่า ตัวโนเวมเองนั้นในโลกจริงเธอก็มีพลังจิตเช่นกัน (ในตอนเด็กๆ เธอใช้พลังนี้ในการจัดการพวกเด็กเกเร และนั่นทำให้เธอได้เจอกับอ็อคโต้ครั้งแรกในโลกแห่งความเป็นจริง)
.
จุดสังเกตได้ว่า เหล่ามอนสเตอร์ในเกมนั้นจะมีพลังพิเศษที่แตกต่างจากพลังที่ผู้เล่นมี นั่นคือผลจากการทดลองของโนเวม ที่เป็นการใช้พลังของโนเวมจากการทดลองนั่นเอง ซึ่งหมายความว่า โนเวม เป็นแม่แบบของพลังพิเศษที่มีในโลกของแอสทรูม แปลว่า เดิมทีนั้น โนเวม ควรจะมีพลังเทพหรือได้แบบที่ฮาสึเนะใช้ หรืออาจมากกว่าด้วย
.
แต่ทว่า โนเวมกลับใช้ในเกมไม่ได้
“ดาบสะบั้นหอคอยสวรรค์” พลังเพียงหนึ่งเดียวที่โนเวมใช้ได้
หากติดตามในเนื้อเรื่องหลักของเกมนั้น จะเห็นได้ว่าโนเวมไม่มีพลังใดๆ เลย ยกเว้นดาบสะบั้นหอคอยสวรรค์ ที่แม้ว่าจะมีพลังทำลายล้างมหาศาล แต่ข้อเท็จจริงนั้น นั่นเป็นหนึ่งในพลังที่เธอสามารถใช้ได้เพียงอย่างเดียว จากหลังหลายๆ อย่างที่เธอถูกทดลองแต่กลับเอามาใช้ไม่ได้
.
แม้ว่าดาบสะบั้นหอคอยสวรรค์จะตกทอดมาให้เธอได้ใช้ตอนที่เกมเปิดบริการจริง (ตอนช่วงที่เธอถูกทดลอง เกมยังอยู่ในช่วงทดสอบ BETA แต่เพราะเธอถูกจำกัดพลังในการใช้งาน ด้วยเหตุนั้น อ็อคโต้ที่เห็นสภาพแบบนั้นของโนเวมเลยเห็นใจเธออยู่ ส่วนเหตุผลที่วิสดอมไม่ยอมให้เธอใช้พลังที่แท้จริงนั้นยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง จึงเป็นไปได้ที่อาจจะยังคงทดลองเธอ หรือ อาจจะจำกัดพลังของเธอก็ได้)
.
ทั้งนี้ในภาคของรีไดฟ์นั้น ดาบของเธอเป็นของจำลองมาจากของจริงที่ใช้ในภาคแรกอีกที ซึ่งของจำลองนี้เป็นผลงานของอากิระ(ลาบิลิสต้า)ที่ช่วยเหลือโนเวมในภาครีไดฟ์นี้นั่นเอง โดยดาบจำลองนี้จะคงสภาพไว้ในระยะเวลาหนึ่ง ไม่ได้อยู่ถาวรเหมือนกับดาบเล่มจริง
.
และด้วยเหตุนั้น ทำให้มุอิมิ หรือโนเวม ภาคภูมิใจในดาบเล่มนี้มาก เรียกได้ว่าเป็นคู่หูเพียงหนึ่งเดียวที่เธอพึ่งพาได้มากที่สุดในการเอาตัวรอดในโลกของแอสทรูมเลยก็ว่าได้
.
(อันนี้ใส่เกร็ดชื่อญี่ปุ่นให้นิดหน่อย ชื่อดาบของโนเวมถ้าแปลตรงตัวจะแปลได้ว่า ดาบที่ทำลายอำนาจค้ำฟ้า(天楼覇断剣 – 剣ดาบ / 断ตัด,สะบั้น / 覇อำนาจ,พลัง / 楼ตึกที่สูงเสียดฟ้า /天ท้องฟ้า,สวรรค์) หรือมีความหมายโดยนัยว่าเป็นดาบที่จะจัดการกับเหล่าผู้มีอำนาจ ซึ่งในภาคแรกอาจหมายถึงเหล่าเซเว่นคลาวน์ที่มีพลัง แต่สำหรับภาครีไดฟ์นี้จะได้จัดการกับใครนั้น ติดตามกันต่อไปครับ)
หากติดตามในเนื้อเรื่องหลักของเกมนั้น จะเห็นได้ว่าโนเวมไม่มีพลังใดๆ เลย ยกเว้นดาบสะบั้นหอคอยสวรรค์ ที่แม้ว่าจะมีพลังทำลายล้างมหาศาล แต่ข้อเท็จจริงนั้น นั่นเป็นหนึ่งในพลังที่เธอสามารถใช้ได้เพียงอย่างเดียว จากหลังหลายๆ อย่างที่เธอถูกทดลองแต่กลับเอามาใช้ไม่ได้
.
แม้ว่าดาบสะบั้นหอคอยสวรรค์จะตกทอดมาให้เธอได้ใช้ตอนที่เกมเปิดบริการจริง (ตอนช่วงที่เธอถูกทดลอง เกมยังอยู่ในช่วงทดสอบ BETA แต่เพราะเธอถูกจำกัดพลังในการใช้งาน ด้วยเหตุนั้น อ็อคโต้ที่เห็นสภาพแบบนั้นของโนเวมเลยเห็นใจเธออยู่ ส่วนเหตุผลที่วิสดอมไม่ยอมให้เธอใช้พลังที่แท้จริงนั้นยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง จึงเป็นไปได้ที่อาจจะยังคงทดลองเธอ หรือ อาจจะจำกัดพลังของเธอก็ได้)
.
ทั้งนี้ในภาคของรีไดฟ์นั้น ดาบของเธอเป็นของจำลองมาจากของจริงที่ใช้ในภาคแรกอีกที ซึ่งของจำลองนี้เป็นผลงานของอากิระ(ลาบิลิสต้า)ที่ช่วยเหลือโนเวมในภาครีไดฟ์นี้นั่นเอง โดยดาบจำลองนี้จะคงสภาพไว้ในระยะเวลาหนึ่ง ไม่ได้อยู่ถาวรเหมือนกับดาบเล่มจริง
.
และด้วยเหตุนั้น ทำให้มุอิมิ หรือโนเวม ภาคภูมิใจในดาบเล่มนี้มาก เรียกได้ว่าเป็นคู่หูเพียงหนึ่งเดียวที่เธอพึ่งพาได้มากที่สุดในการเอาตัวรอดในโลกของแอสทรูมเลยก็ว่าได้
.
(อันนี้ใส่เกร็ดชื่อญี่ปุ่นให้นิดหน่อย ชื่อดาบของโนเวมถ้าแปลตรงตัวจะแปลได้ว่า ดาบที่ทำลายอำนาจค้ำฟ้า(天楼覇断剣 – 剣ดาบ / 断ตัด,สะบั้น / 覇อำนาจ,พลัง / 楼ตึกที่สูงเสียดฟ้า /天ท้องฟ้า,สวรรค์) หรือมีความหมายโดยนัยว่าเป็นดาบที่จะจัดการกับเหล่าผู้มีอำนาจ ซึ่งในภาคแรกอาจหมายถึงเหล่าเซเว่นคลาวน์ที่มีพลัง แต่สำหรับภาครีไดฟ์นี้จะได้จัดการกับใครนั้น ติดตามกันต่อไปครับ)
สายของ “มิเนอร์ว่า” ที่ค้นหา “ผู้ที่จะมาเป็นปรี้นเซส”
.
ในโลกของเกมแอสทรูมนั้นกว้างใหญ่ มีข้อมูล (DATA) จำนวนมาก ทำให้ทาง “7 มงกุฎ” ซึ่งเป็นชื่อของกลุ่มคนอัจริยะและมีส่วนในการพัฒนาเกม ภายใต้การทำงานขององค์กร “วิสดอม” ซึ่งจะเห็นได้ว่า อากิระ นั้นเป็นคนดีไซน์ฉากในเกม เธอจึงใช้พลังในการเปลี่ยนแปลงภูมิศาสตร์ในเกม ส่วน “เนเนกะ” เป็นคนสร้างออปเจ็ทในเกมรวมไปถึงร่างอวตารทั้งหมด เธอจงเปลี่ยนร่างเป็นอะไรในเกมก็ได้นั่นเอง
และหนึ่งในหน้าที่หลักของ 7 มงกฎก็คือ การสร้าง AI ขึ้นมาเพื่อช่วยดูแลโลกของเกมนั่นก็คือ “มิเนอร์ว่า” นั่นเอง (ซึ่งอากิระ เคยบอกกับคกโคโระไว้ว่า มิเนอร์ว่าเปรียบเสมือนลูกสาวตัวเอง เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่สร้างเธอมากับมือ)
.
มิเนอร์ว่านั้นแม้จะเป็น AI แต่ก็มีการพัฒนาความคิดไม่ต่างจากมนุษย์ และนั่นทำให้เธอมีความอยากรู้อยากเห็น รวมไปถึงอยากจะช่วยทำให้ “ความปรารถนา” ของคนเล่นเป็นจริงต่อผู้เล่นที่สามารถพิชิตเนื้อหาของเกมได้ และหนึ่งในนั้นก็คือ การค้นหาคนเล่นที่จะสามารถพิชิตเนื้อหาโหดสุดของเกมได้ ซึ่งก็คือ “หอคอยโซล” (ชื่อหอคอยโซล อันนี้น่าจะแปลว่าดวงอาทิตย์ ที่ตรงข้ามกับหอคอยลูน่าในภาคนี้ที่แปลว่าดวงจันทร์ครับ) (หอคอยลอยฟ้าที่อยู่เหนือวังกลางเมือง) ซึ่งผู้เล่นที่จะสามารถพิชิตได้นั้นจะเรียกกันว่า “ปรี้นเซส” ซึ่งคำว่า “ปรี้นเซส” ในทีนี้ ไม่ได้แปลว่า เจ้าหญิง แต่หมายถึง “ผู้พิชิตแอสทรูม”
แน่นอนว่ามิเนอร์ว่าก็ไม่รู้ว่าคนเล่นคนนั้นจะเป็นใคร ดังนั้นเธอจึงต้องการคนช่วยค้นหา และนั่นทำให้มิเนอร์ว่าทำข้อตกลงร่วมกับโนเวม (ส่งอีเมลเชิญโนเวมกับอ็อตโต้ไปหา) ซึ่งตรงส่งเมลนี่ ตรงนี้จะมีเกร็ดนิดหน่อย คือมิเนอว่าส่งเมลชื่อโนเวมไปหาอ็อคโต และส่งชื่ออ็อคโตไปหาโนเวม ก่อนที่ทั้งสองจะมาเจอในโลกจริง และพูดคุยกับมิเนอว่า)
.
และวิธีการที่โนเวมทำได้ก็คือ การแสดงตัวว่า เป็น “ศัตรูของตัวละครหลักในเกมภาคแรก” นั่นก็คือ อัศวินคุง และสมาชิกกิลด์ทวิงเกิ้ลวิชในเวลานั้น ที่ประกอบไปด้วย “เรย์” “ฮิโยริ” และ “ยุย” (จึงเป็นเหตุผลว่า 3 คนนี้ คือนางเอกของภาคเดิมนั่นเอง)
.
(เพิ่มเติม คุณยืนยันเคยเขียนเป็นโพสต์เรื่องนี้ไว้อยู่ แต่อาจสปอยเนื้อหาภาครีไดฟ์ในเวลานั้นจึงไม่ได้แชร์ในกลุ่ม เพราะมันมีความหมายที่ส่งตรงไปถึงชื่อ “ปริ้นเซสฟอร์ม” ที่จะแปลได้ว่า “รูปลักษณ์ของผู้พิชิตเกม”ด้วย คนไหนที่สนใจสามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้ในลิ้งนี้ครับ)
ลิ้ง – https://www.facebook.com/YunYanGaming/posts/215264853396725
.
ในโลกของเกมแอสทรูมนั้นกว้างใหญ่ มีข้อมูล (DATA) จำนวนมาก ทำให้ทาง “7 มงกุฎ” ซึ่งเป็นชื่อของกลุ่มคนอัจริยะและมีส่วนในการพัฒนาเกม ภายใต้การทำงานขององค์กร “วิสดอม” ซึ่งจะเห็นได้ว่า อากิระ นั้นเป็นคนดีไซน์ฉากในเกม เธอจึงใช้พลังในการเปลี่ยนแปลงภูมิศาสตร์ในเกม ส่วน “เนเนกะ” เป็นคนสร้างออปเจ็ทในเกมรวมไปถึงร่างอวตารทั้งหมด เธอจงเปลี่ยนร่างเป็นอะไรในเกมก็ได้นั่นเอง
และหนึ่งในหน้าที่หลักของ 7 มงกฎก็คือ การสร้าง AI ขึ้นมาเพื่อช่วยดูแลโลกของเกมนั่นก็คือ “มิเนอร์ว่า” นั่นเอง (ซึ่งอากิระ เคยบอกกับคกโคโระไว้ว่า มิเนอร์ว่าเปรียบเสมือนลูกสาวตัวเอง เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่สร้างเธอมากับมือ)
.
มิเนอร์ว่านั้นแม้จะเป็น AI แต่ก็มีการพัฒนาความคิดไม่ต่างจากมนุษย์ และนั่นทำให้เธอมีความอยากรู้อยากเห็น รวมไปถึงอยากจะช่วยทำให้ “ความปรารถนา” ของคนเล่นเป็นจริงต่อผู้เล่นที่สามารถพิชิตเนื้อหาของเกมได้ และหนึ่งในนั้นก็คือ การค้นหาคนเล่นที่จะสามารถพิชิตเนื้อหาโหดสุดของเกมได้ ซึ่งก็คือ “หอคอยโซล” (ชื่อหอคอยโซล อันนี้น่าจะแปลว่าดวงอาทิตย์ ที่ตรงข้ามกับหอคอยลูน่าในภาคนี้ที่แปลว่าดวงจันทร์ครับ) (หอคอยลอยฟ้าที่อยู่เหนือวังกลางเมือง) ซึ่งผู้เล่นที่จะสามารถพิชิตได้นั้นจะเรียกกันว่า “ปรี้นเซส” ซึ่งคำว่า “ปรี้นเซส” ในทีนี้ ไม่ได้แปลว่า เจ้าหญิง แต่หมายถึง “ผู้พิชิตแอสทรูม”
แน่นอนว่ามิเนอร์ว่าก็ไม่รู้ว่าคนเล่นคนนั้นจะเป็นใคร ดังนั้นเธอจึงต้องการคนช่วยค้นหา และนั่นทำให้มิเนอร์ว่าทำข้อตกลงร่วมกับโนเวม (ส่งอีเมลเชิญโนเวมกับอ็อตโต้ไปหา) ซึ่งตรงส่งเมลนี่ ตรงนี้จะมีเกร็ดนิดหน่อย คือมิเนอว่าส่งเมลชื่อโนเวมไปหาอ็อคโต และส่งชื่ออ็อคโตไปหาโนเวม ก่อนที่ทั้งสองจะมาเจอในโลกจริง และพูดคุยกับมิเนอว่า)
.
และวิธีการที่โนเวมทำได้ก็คือ การแสดงตัวว่า เป็น “ศัตรูของตัวละครหลักในเกมภาคแรก” นั่นก็คือ อัศวินคุง และสมาชิกกิลด์ทวิงเกิ้ลวิชในเวลานั้น ที่ประกอบไปด้วย “เรย์” “ฮิโยริ” และ “ยุย” (จึงเป็นเหตุผลว่า 3 คนนี้ คือนางเอกของภาคเดิมนั่นเอง)
.
(เพิ่มเติม คุณยืนยันเคยเขียนเป็นโพสต์เรื่องนี้ไว้อยู่ แต่อาจสปอยเนื้อหาภาครีไดฟ์ในเวลานั้นจึงไม่ได้แชร์ในกลุ่ม เพราะมันมีความหมายที่ส่งตรงไปถึงชื่อ “ปริ้นเซสฟอร์ม” ที่จะแปลได้ว่า “รูปลักษณ์ของผู้พิชิตเกม”ด้วย คนไหนที่สนใจสามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้ในลิ้งนี้ครับ)
ลิ้ง – https://www.facebook.com/YunYanGaming/posts/215264853396725
“อืม…. นั่นสินะ ตอนนั้นนายกับฉันก็เป็นศัตรูกันด้วย พอนายจำไม่ได้มันก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน”
.
ตอนช่วงที่มุอิมิ หรือโนเวมเจอกับอัศวินคุงในเวลาปัจจุบัน ที่เจ้าตัวอ๊องไปแล้วนั้น นี่เป็นประโยคที่เธอพูดออกมา เนื่องจากในอดีตนั้น เธอได้เป็นศัตรูกับอัศวินคุงจริงๆ
.
ในเหตุการณ์เกมภาคแรกนั้นมีอยู่บ่อยครั้งที่โนเวมเข้าปะทะกับอัศวินคุง และเหล่ากิลด์ทวิงเกิ้ลวิช และนอกจากนั้นเพื่อสืบหาคนที่เหมาะสมที่จะเป็น “ปรี้นเซส ผู้พิชิตหอคอยแอสทรูม” ตามข้อตกลงกับมิเนอร์ว่า โนเวลจึงได้แฝงตัวเข้าไปอยู่กับเหล่า “7 มงกุฎ” และนั่นทำให้โนเวมได้เข้าไปเจอกับ “มานะ” หรือ “ยูสเทียน่าตัวปลอม” ที่ปรากฎตัวออกมาเป็นศัตรูในเกมช่วงเวลาปัจจุบันของเซิร์ฟไทย
.
เนื่องจาก 7 มงกฎ เป็นคนของวิสดอม และฝ่าย 7 มงกุฎเองก็มีเป้าหมายในใจของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า มานะ นั้นมีเป้าหมายที่ไกลกว่านั้น คือ “การครอบครองมิเนอร์ว่าเพื่อทำความปรารถนาของตนเองให้เป็นความจริง” ดังนั้น มานะจึงมองโนเวมและอ็อตโต้ในฐานะลูกสมุนที่ใช้แล้วทิ้งได้ทุกเมื่อ เป็นคนที่เห็นแก่ตัวและไม่สนใจใดๆ นอกจากความต้องการของตัวเอง
.
แต่แน่นอนว่า ทั้งโนเวมและอ็อคโต้เอง ก็ไม่ใช่คนของ 7 มงกุฎแต่แรก และมีหรือที่ทั้งสองคนจะยอมทำตามที่มานะต้องการ
(ทั้งนี้ จากชื่อของทั้งสองคนเองก็เป็นการล้อชื่อด้านตัวเลขด้วย ในภาษาลาติน อ็อคโตแปลว่า 8 และโนเวมแปลว่า 9 ซึ่งเป็นการแฝงนัยว่าไม่ใช่พวกเซเว่นคลาวน์ตั้งแต่แรกนั่นเอง)
.
ตอนช่วงที่มุอิมิ หรือโนเวมเจอกับอัศวินคุงในเวลาปัจจุบัน ที่เจ้าตัวอ๊องไปแล้วนั้น นี่เป็นประโยคที่เธอพูดออกมา เนื่องจากในอดีตนั้น เธอได้เป็นศัตรูกับอัศวินคุงจริงๆ
.
ในเหตุการณ์เกมภาคแรกนั้นมีอยู่บ่อยครั้งที่โนเวมเข้าปะทะกับอัศวินคุง และเหล่ากิลด์ทวิงเกิ้ลวิช และนอกจากนั้นเพื่อสืบหาคนที่เหมาะสมที่จะเป็น “ปรี้นเซส ผู้พิชิตหอคอยแอสทรูม” ตามข้อตกลงกับมิเนอร์ว่า โนเวลจึงได้แฝงตัวเข้าไปอยู่กับเหล่า “7 มงกุฎ” และนั่นทำให้โนเวมได้เข้าไปเจอกับ “มานะ” หรือ “ยูสเทียน่าตัวปลอม” ที่ปรากฎตัวออกมาเป็นศัตรูในเกมช่วงเวลาปัจจุบันของเซิร์ฟไทย
.
เนื่องจาก 7 มงกฎ เป็นคนของวิสดอม และฝ่าย 7 มงกุฎเองก็มีเป้าหมายในใจของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า มานะ นั้นมีเป้าหมายที่ไกลกว่านั้น คือ “การครอบครองมิเนอร์ว่าเพื่อทำความปรารถนาของตนเองให้เป็นความจริง” ดังนั้น มานะจึงมองโนเวมและอ็อตโต้ในฐานะลูกสมุนที่ใช้แล้วทิ้งได้ทุกเมื่อ เป็นคนที่เห็นแก่ตัวและไม่สนใจใดๆ นอกจากความต้องการของตัวเอง
.
แต่แน่นอนว่า ทั้งโนเวมและอ็อคโต้เอง ก็ไม่ใช่คนของ 7 มงกุฎแต่แรก และมีหรือที่ทั้งสองคนจะยอมทำตามที่มานะต้องการ
(ทั้งนี้ จากชื่อของทั้งสองคนเองก็เป็นการล้อชื่อด้านตัวเลขด้วย ในภาษาลาติน อ็อคโตแปลว่า 8 และโนเวมแปลว่า 9 ซึ่งเป็นการแฝงนัยว่าไม่ใช่พวกเซเว่นคลาวน์ตั้งแต่แรกนั่นเอง)
จุดพลิกผัน
.
ในการต่อสู้ช่วงท้ายเกม มานะได้เข้าต่อสู้กับอัศวินคุงจนเสียท่าและขอให้โนเวมกับอ็อคโต้ช่วยตน แต่โนเวมกับอ็อคโต้กลับใช้จังหวะนั้นโจมตีใส่มานะเพื่อช่วยอัศวินคุงและกิลด์ทวิงเกิ้ลวิช พร้อมกับเปิดเผยตัวตนว่า โนเวมกับอ็อคโต้ไม่ใช่พวกของ 7 มงกุฎ แต่เป็นพวกของ “มิเนอร์ว่า” คนที่อยู่ฝ่ายปกป้องโลกของเกมนั่นเอง
.
จากเหตุการณ์นั้น ทำให้ร่างอวตารสำรองของมานะนั้นถูกทำลายไป และด้วยเหตุนั้น มานะจึงโกรธแค้นโนเวมมาก และก็ได้เริ่มออกไล่ล่าทั้งอัศวินคุง กิลด์ทวิงเกิ้ลวิช รวมไปถึงโนเวมและอ็อคโต้ด้วย และในท้ายที่สุด
.
ทุกอย่างจึงได้เริ่มต้น
.
ในการต่อสู้ช่วงท้ายเกม มานะได้เข้าต่อสู้กับอัศวินคุงจนเสียท่าและขอให้โนเวมกับอ็อคโต้ช่วยตน แต่โนเวมกับอ็อคโต้กลับใช้จังหวะนั้นโจมตีใส่มานะเพื่อช่วยอัศวินคุงและกิลด์ทวิงเกิ้ลวิช พร้อมกับเปิดเผยตัวตนว่า โนเวมกับอ็อคโต้ไม่ใช่พวกของ 7 มงกุฎ แต่เป็นพวกของ “มิเนอร์ว่า” คนที่อยู่ฝ่ายปกป้องโลกของเกมนั่นเอง
.
จากเหตุการณ์นั้น ทำให้ร่างอวตารสำรองของมานะนั้นถูกทำลายไป และด้วยเหตุนั้น มานะจึงโกรธแค้นโนเวมมาก และก็ได้เริ่มออกไล่ล่าทั้งอัศวินคุง กิลด์ทวิงเกิ้ลวิช รวมไปถึงโนเวมและอ็อคโต้ด้วย และในท้ายที่สุด
.
ทุกอย่างจึงได้เริ่มต้น
ความปรารถนาของ “มานะ”
.
ในช่วงเวลานั้น มานะได้ใช้อวาตารตัวจริง ได้ไล่หลังพวกตัวเอกและโนเวมขึ้นมาถึงห้องของมิเนอว่าในหอคอยโซลได้สำเร็จ ทำให้เกิดการต่อสู้อย่างดุเดือดขึ้น แน่นอนว่า เป้าหมายของมานะนั้นคือต้องการจะครอบครองมิเนอว่าเพื่อทำให้ความปรารถนาเป็นจริง (ในช่วงเวลานั้น ภูตินาวิเกเตอร์ของตัวเอกที่ชื่อฟีโอ้ ได้เข้ามาช่วยขัดขวางจนหายไป ก่อนที่จะปรากฎตัวอีกครั้งในนาม ท่านอาเมส ที่อยู่ในสภาพฟื้นตัวเองไม่ได้ทันทีตามที่เห็นกันในปัจจุบัน)
.
.
ในช่วงเวลานั้น มานะได้ใช้อวาตารตัวจริง ได้ไล่หลังพวกตัวเอกและโนเวมขึ้นมาถึงห้องของมิเนอว่าในหอคอยโซลได้สำเร็จ ทำให้เกิดการต่อสู้อย่างดุเดือดขึ้น แน่นอนว่า เป้าหมายของมานะนั้นคือต้องการจะครอบครองมิเนอว่าเพื่อทำให้ความปรารถนาเป็นจริง (ในช่วงเวลานั้น ภูตินาวิเกเตอร์ของตัวเอกที่ชื่อฟีโอ้ ได้เข้ามาช่วยขัดขวางจนหายไป ก่อนที่จะปรากฎตัวอีกครั้งในนาม ท่านอาเมส ที่อยู่ในสภาพฟื้นตัวเองไม่ได้ทันทีตามที่เห็นกันในปัจจุบัน)
.
ซึ่งพวกของอัศวินคุงและสามสาวที่ได้รับชัยชนะ ได้ให้อัศวินคุงเลือกผู้ที่จะเป็นปริ้นเซส ซึ่งตัวเอกได้เลือก “ยุย” แต่ทว่า ยุยกลับถูก “มานะเข้าควบคุม” และบังคับให้เธอพูดถึงความปรารถนาของมานะ ต่อหน้ามิเนอร์ว่า
.
ซึ่งตรงนี้ตามเนื้อเรื่องเดิมนั้น ยุยได้ขอความปรารถนาของมานะ ก็คือ “ขอให้ทุกคนอยู่ในโลกของแอสทรูมตลอดไป” แต่พวกอัศวินคุงกับคนอื่นๆ ขัดขวางสำเร็จและขอความปรารถนาใหม่ที่มาจากใจของยุยโดยแท้จริง แล้วค่อยๆ ทยอยล็อคเอ้าท์ออกจากเกมกัน แต่เนื่องจากการเล่าเรื่องของภาครีไดฟ์นั้นแตกต่างจากภาคแรก เราจึงยังไม่รู้ว่าทางไซส์เกมจะแถ….. จะเล่าเรื่องนี้อย่างไร
แต่หากอิงจากในเหตุการณ์ภาครีไดฟ์แล้วนั้นจะหมายความว่า มานะมีความปรารถนาบางอย่างและเข้าควบคุมยุยเอาไว้ บังคับให้ยุยขอความปรารถนาของมานะกับมิเนอร์ว่า ซึ่งความปรารถนาที่ว่านั้นคืออะไรเกมยังไม่มีการเฉลย แต่นั่นคือจุดเริ่มต้น
.
เพราะหลังจากนั้น ทุกคนในเกมถูกล้างสมอง และถูกขังในเกม จนทุกคนคิดว่า โลกของเกมคือโลกแห่งความเป็นจริง และหลังจากนั้น ทุกคนตกอยู่ในสภาพโคม่า และไม่มีใครได้สติอีกเลย จนกระทั่งผ่านมาแล้วครึ่งปีกว่า
.
เพราะหลังจากนั้น ทุกคนในเกมถูกล้างสมอง และถูกขังในเกม จนทุกคนคิดว่า โลกของเกมคือโลกแห่งความเป็นจริง และหลังจากนั้น ทุกคนตกอยู่ในสภาพโคม่า และไม่มีใครได้สติอีกเลย จนกระทั่งผ่านมาแล้วครึ่งปีกว่า
ปัจจุบัน
มีความเป็นไปได้ว่า โนเวมนั้นเป็นคนที่ถูกทางวิสดอมบังคับเข้าร่วมการทดลองพลังพิเศษ เธอจึงรอดพ้นจากการถูกล้างสมองและจดจำทุกอย่างได้ แต่แน่นอนว่าเธอไม่สามารถล็อคเอ้าท์ออกจากเกมได้ และเธอก็ยังไม่รู้ตัั้งแต่แรกว่าทุกคนโดนล้างสมองไปหมด และหลังจากนั้น เธอก็ได้มาเจอเข้ากับอัศวินคุงโดยบังเอิญ ซึ่งเป็นตอนที่อัศวินคุง คกโคโระ และสึซึเมะ กำลังไปทำงานพิเศษ และรถม้าถูกระเบิดตามแผนของอ็อคโต้ ซึ่งแน่นอนว่าการมาเจอกันอีกครั้งของโนเวมกับอ็อคโต้ในเวลานั้น โนเวมแทบจะช็อคทันที เพราะตอนนั้น อ็อคโต้บอกว่าจำเธอไม่ได้
มีความเป็นไปได้ว่า โนเวมนั้นเป็นคนที่ถูกทางวิสดอมบังคับเข้าร่วมการทดลองพลังพิเศษ เธอจึงรอดพ้นจากการถูกล้างสมองและจดจำทุกอย่างได้ แต่แน่นอนว่าเธอไม่สามารถล็อคเอ้าท์ออกจากเกมได้ และเธอก็ยังไม่รู้ตัั้งแต่แรกว่าทุกคนโดนล้างสมองไปหมด และหลังจากนั้น เธอก็ได้มาเจอเข้ากับอัศวินคุงโดยบังเอิญ ซึ่งเป็นตอนที่อัศวินคุง คกโคโระ และสึซึเมะ กำลังไปทำงานพิเศษ และรถม้าถูกระเบิดตามแผนของอ็อคโต้ ซึ่งแน่นอนว่าการมาเจอกันอีกครั้งของโนเวมกับอ็อคโต้ในเวลานั้น โนเวมแทบจะช็อคทันที เพราะตอนนั้น อ็อคโต้บอกว่าจำเธอไม่ได้
(จริงๆนางจำได้ แต่โมเมแกล้งทำเป็นจำไม่ได้เพราะตัวเองก็มีแผนอยู่…น่าหมั่นไส้ละเกิน)
การโจมตีของอ็อคโต้นั้นมีผลจากคำสั่งของมานะ ที่สั่งให้พาตัวโนเวมไปหา เนื่องจากโนเวมเป็นคนเดียวในเกมที่รู้ความลับที่แท้จริงของโลก แต่ด้วยความช่วยเหลือของอากิระที่รู้เรื่องนี้ ที่ชิงพาตัวโนเวมออกมาก่อน แม้ว่าจะโดนมานะที่ใช้แผนหลอกล่อเอาทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นมารวมกันเพื่อที่ฆ่าทิ้งในคราวเดียว แต่ทุกคนก็รอดมาได้เพราะอากิระช่วยเอาไว้ โนเวมจึงได้เข้าร่วมกับกลุ่มลาบิรินธ์ ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะหาทางแก้ปัญหาเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้
ในบทที่ 11 ของเนื้อเรื่องหลักนั้น เป็นการพบกันครั้งแรกของโนเวม กับเหล่าทวิงเกิ้ลวิช แน่นอนว่าเธอรู้ดีว่าทุกคนโดนล้างสมอง และจำอะไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ทุกอย่างเริ่มต้นจากจุดนั้น และด้วยความเจ็บแค้นเมื่อได้เห็นบุคคลตรงหน้า เธอจึงได้ตะโกนพร้อมกับชี้ดาบไปทางคนที่เธอทั้งรักและทั้งเกลียดที่สุด
.
“เป็นเพราะเธอคนเดียว เพราะเธอไปพูดความปรารถนานั่น เรื่องทุกอย่างมันเลยเป็นแบบนี้”
.
แต่แล้ว ความปรารถนาของมานะ ที่บังคับให้ยุยพูดขอกับมิเนอร์ว่าคืออะไร? เรื่องนี้ท่าทางคนเล่นจะรอกันไม่นานก็จะได้คำตอบแล้ว
.
“เพราะความปรารถนาของมานะ จะมีการเฉลยในช่วงครึ่งหลังของเนื้อเรื่องบทที่ 13 นั่นเอง
.
“เป็นเพราะเธอคนเดียว เพราะเธอไปพูดความปรารถนานั่น เรื่องทุกอย่างมันเลยเป็นแบบนี้”
.
แต่แล้ว ความปรารถนาของมานะ ที่บังคับให้ยุยพูดขอกับมิเนอร์ว่าคืออะไร? เรื่องนี้ท่าทางคนเล่นจะรอกันไม่นานก็จะได้คำตอบแล้ว
.
“เพราะความปรารถนาของมานะ จะมีการเฉลยในช่วงครึ่งหลังของเนื้อเรื่องบทที่ 13 นั่นเอง
และทั้งหมดนี้ก็คือ เรื่องราวเบื้องหลังของมุอิมิ
ทำไมเธอถึงต้องแสดงสีหน้าเศร้าโศกทุกครั้งที่รู้ว่าอ็อคโต้แสดงท่าทางว่าจำอะไรไม่ได้
ทำไมเธอถึงภูมิใจและรักดาบสะบั้นหอคอยสวรรค์อย่างมาก
และทำไมเธอถึงมักจะเก็บความเครียดบางอย่างไว้ในใจเสมอ
รวมไปถึงความเยือนเย็นและวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างแม่นยำในหลายครั้ง
เชื่อได้ว่า คนเล่นทุกคนที่อ่านโพสนี้ น่าจะรู้คำตอบกันแล้ว
และสำหรับคนไหนที่อยากจะรู้เรื่องราวของเนื้อเรื่องเกมภาคแรกมากขึ้น สามารถไปชมกันได้ในเพจของ Yunyan Gaming กันได้เลยนะครับ
ทำไมเธอถึงต้องแสดงสีหน้าเศร้าโศกทุกครั้งที่รู้ว่าอ็อคโต้แสดงท่าทางว่าจำอะไรไม่ได้
ทำไมเธอถึงภูมิใจและรักดาบสะบั้นหอคอยสวรรค์อย่างมาก
และทำไมเธอถึงมักจะเก็บความเครียดบางอย่างไว้ในใจเสมอ
รวมไปถึงความเยือนเย็นและวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างแม่นยำในหลายครั้ง
เชื่อได้ว่า คนเล่นทุกคนที่อ่านโพสนี้ น่าจะรู้คำตอบกันแล้ว
และสำหรับคนไหนที่อยากจะรู้เรื่องราวของเนื้อเรื่องเกมภาคแรกมากขึ้น สามารถไปชมกันได้ในเพจของ Yunyan Gaming กันได้เลยนะครับ
เกร็ดเพิ่มเติม สาเหตุว่าทำไมภาคแรกถึงเดินเรื่องต่างกับภาคนี้
บทของภาคแรก เขียนโดยคุณ太田僚 (โอตะ เรียว) โดยผลงานขึ้นชื่อจะเป็นงานในฝั่งเกมสาวน้อย(美少女ゲーム) หรือคนทั่วไปในบ้านเราเรียกว่า visual novel ซึ่งงานอันเลื่องชื่อคือ 失われた未来を求めて (อุชินะวาเรตะ มิไรโวะโมโตเมเตะ) ซึ่งเคยเป็นอนิเมะในชื่อเดียวกัน(ทั้งนี้อนิเมะเผามาก ไม่แนะนำให้ดูเท่าไหร่ แต่ฉบับเกมถ้าจำไม่ผิดจะได้รางวัลเกมยอดเยี่ยมอยู่)