หลังจากที่เปิดตัวกันมาแล้ว ทางทีมงานของเราก็ได้รับมือถือ “Motorola One” นำเอามาทดลองใช้กัน และเพื่อให้คุ้นชินและจะสามารถรีวิวได้เต็มปากจริงๆ โดยทางเราได้นำมาทดสอบกันทั้งหมด 1 อาทิตย์ ใช้งานเต็มแบบที่เหมือนใช้งานเป็นสมาร์ทโฟนหลักกันเลยทีเดียว เราจะมาดูกันครับว่าตัวมือถือเป็นอย่างไร
รายละเอียดสเปค
– หน้าจอ: 5.9 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720×1520) 19:9
– CPU : Qualcomm Snapdragon 625
– GPU: Adreno 506
– RAM : 4GB
– ความจุ : 64GB รองรับ MicroSD Card 256 GB
– กล้องหลัง: Dual Camera 13MP (f2.0, 1.12um) + 8MP (f2.4, 1.75um), Google Lens
– กล้องหน้า : 8MP (f2.2, 1.12um)
– เซ็นเซอร์ : Fingerprint reader, Proximity sensor, Accelerometer, Ambient Light sensor, Magnetometer, Gyroscope
– แบตเตอรี่ : 3,000mAh
– ขนาดเครื่อง: 150×72×7.97 มม / 162 กรัม
– รองรับ 2 Nano SIM (Truemove H เท่านั้น)
– มีรูหูฟัง 3.5 มม
ความสามารถที่เป็น Android One
ความโดดเด่นของ Motorola One คือ การที่เป็นมือถือ Android One ซึ่งข้อเด่นก็คือจะมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมีการอัพเดตแพตซ์เร็วกว่าแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ แถมมีการการันตีการอัพเดตถึง 3 ปี นั่นแปลว่า มือถือจะได้รับการดูแลตลอด 3 ปีเต็ม และการอัพเดตจะไม่ใช่แค่เอาความปลอดภัยอย่างเดียว แต่จะทำให้ประสิทธิภาพของมือถือทำออกมาดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ที่โดดเด่นอีกอย่างเลยก็คือระบบ Google Len ที่จะทำให้สามารถค้นหาอะไรก็ได้โดยการใช้แอพกล้องแล้วแค่จิ้มไปยังภาพที่ต้องการ ความสามารถนี้จะคลอบคลุมการแปลภาษา ที่ผู้ใช้จะสามารถกอปปี้ข้อความจากภาพที่ถ่ายแล้วเอาไปแปลภาษาอีกที ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าของที่เห็นคืออะไร และความง่ายในการค้นหา
นอกจากนี้ตัวมือถือยังสามารถอัพโหลดขึ้นไปยัง Google Photo ได้แบบไม่จำกัด ไม่ลดขนาดภาพ และไม่ย่อไฟล์โดยที่คนซื้อไม่ต้องไปซื้อพื้นที่เพิ่มจากใน Google Drive จึงทำให้คนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพไม่ต้องพะวงเรื่องรูปหาย เพราะจะสามารถถ่ายภาพแล้วอัพโหลดขึ้นไปได้เรื่อยๆ นั่นเอง
จุดเด่นพิเศษ Moto Actions
Moto Actions เป็นระบบที่เราขยับมือถือก็จะเปิดใช้งานทั้งกล้องและไฟฉายได้แบบทันทีโดยไม่ต้องไปเสียเวลาปลดล็อคหน้าจอ ซึ่งระบบนี้เป็นอีกระบบที่มีประโยชน์มาก เช่น อยู่ในที่มืดและต้องการไฟฉายแบบเร่งด่วน ก็แค่เขย่าสองครั้ง ไฟฉายก็เปิดแล้ว ส่วนถ้าจะเปิดกล้อง ก็แค่ขยับไปมา กล้องก็จะเปิดแล้ว ทำให้สามารถหยิบขึ้นมาถ่ายรูปได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
กล้องเลนส์คู่ ถ่ายภาพโฟกัสโอเค
กล้องของ Motorola One นั้นเป็นกล้องหลังคู่ ความละเอียด 13 MP f2.0 และ 2 MP f2.4 จะช่วยในการปรับโฟกัสในการถ่ายได้อย่างรวดเร็ว เท่าที่ลองทดลองถ่ายนั้น มือถือสามารถหยิบขึ้นมาแล้วกดถ่ายได้เลย เพราะกล้องมีการโฟกัสที่ค่อนข้างไว (ใช้คำว่า ค่อนข้าง นะครับ ยังไม่ได้ไวแบบเหมือนรุ่นที่แพงกว่านี้) แต่ข้อเด่นของกล้องก็คือ จะถ่ายค่อนข้างง่าย ข้อติก็คอ การจัดการเรื่องแสงนั้นจะไม่ค่อยบาลานซ์ คนใช้อาจต้องจิ้มไปที่จุดบางจุดเพื่อโฟกัสแสงให้เหมาะสมเอา แต่การถ่ายหน้าคนนั้นจะทำออกมาได้ดีครับ โดยกล้องหลังจะสามารถถ่ายได้ถึง 4K เลยทีเดียว
ส่วนกล้องหน้านั้นจะมีความละเอียด 8MP f2.2 การจับโฟกัสอาจสู้กล้องหน้าไม่ได้ เน้นในการถ่ายภาพหน้าคนเสียมากกว่า โดยจะมีโหมดบิ้วตี้มาให้เพื่อเอาใจสาวๆ โดยโหมดบิวตี้ก็ทำออกมาได้ดี สีของภาพทำออกมาได้เป็นธรรมชาติ และที่โดดเด่นที่คนเขียนชอบเป็นพิเศษก็คือ การถ่ายวีดีโอ กล้องจะมีการจับโฟกัสให้แบบอัตโนมัติเมื่อเราได้ยื่นกล้องเข้าไปใกล้ๆ เพื่อจับตำแหน่งวัตถุใกล้-ไกล สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายวีดีโอ ก็น่าจะชอบระบบนี้กันครับ
ในกล้องนั้นยังมีโหมดเด่นอย่างโหมดไทม์แลป ที่จะมีโหมดกันสั่นมาให้ด้วย จากการทดสอบนั้น กล้องจะปรับภาพไม่ให้สั่นหลังจากที่ถ่ายเสร็จแล้ว ยิ่งถ่ายนาน กล้องก็จะใช้เวลาปรับนาน แต่ภาพที่ออกมานั้นจะนิ่งมากเหมือนใช้ขาตั้งกล้องมาช่วยเลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
การนำมาเล่นเกม
อีกทั้งเครื่องนี้เป็นแบบ Android One ที่จะไม่มีแอพช่วยจัดสรรทรัพยากรเครื่องขณะเล่นเกมอะไรเลย เวลาที่มีอะไรแจ้งเตือนมาก็แจ้งเตือนขณะเล่นเกมอยู่ ส่งผลทำให้เกมขณะนั้นช้าไปอีก ถ้าว่าตรงๆ แล้ว Motorola One ไม่เหมาะเอาไปเล่นเกมหนักๆ เลย เหมาะเอาไปเล่นเกมสนุกๆ ที่กินสเปคไม่เยอะเสียมากกว่า
แบตเตอร์รี่มี 3,000 แต่ซาร์จไว แถมจัดสรรดีมาก
สุดท้ายที่โดดเด่นคือเรื่องแบตเตอร์รี่้ Motorola One มีแบตมาให้ 3,000 mAh เป็นระดับมาตราฐานของสมาร์ทโฟนปกติ แต่ความโดดเด่นก็คือ มีระบบซาร์จไว TurboPower มาให้ (ขณะซาร์จ เครื่องจะอุ่นขึ้น) และหลังจากซาร์จ 20 นาทีจะสามารถใช้งานมือถือแบบเต็มที่ถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งจากการทดลองใช้ทั้งเล่นเกม (เปิดเสียงลำโพงด้วย) และถ่ายภาพแบบติดต่อกันนานๆ ในสภาพอากาศร้อน แบตเตอร์รี่ทนจริง และสามารถใช้งานได้ยาวนานจริงสมกับคุณภาพของมือถือ ง่ายๆ ว่าถึงจะมีแบตแค่ 3,000 แต่ความสามารถในการจัดการแบตเตอร์รี่ของมือถือตัวนี้ทำออกมาได้ดีมากจนไม่ต้องมีแบตใหญ่ๆ เลยล่ะครับ
สรุปตามความเห็นส่วนตัวของคนเขียน Motorola One จะเหมาะสำหรับ
– คนที่ต้องการการอัพเดต 3 ปียาวๆ เพื่อให้ใช้มือถือคุ้มที่สุด
– เน้นใช้แบตเตอร์ได้ยาวๆ และใช้เวลาซาร์จไม่นาน
– ถ่ายภาพแล้วต้องการให้รูปอัพโหลดขึ้นไปบนคราวด์แบบไม่จำกัดพื้นที่ จะได้ลบรูปในเครื่องได้เรื่อยๆ
– ไม่เน้นเกม ถ้าจะเล่นเกมก็จะเล่นเกมเบาๆ แทน
– เน้นสายวีดีโอแบบปกติ (ถ่ายเอาแบบปกติ) และเน้นในการหยิบขึ้นมาแล้วถ่ายได้เลย
– และ คนที่ต้องการฟังก์ชั่น Moto Actions ที่แค่เขย่าก็เปิดไฟฉาย หรือ สะบัดก็เปิดกล้องเพื่อความรวดเร็วในการใช้งาน
ราคา และ การจัดจำหน่าย
motorola one มาในสีดำและพร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป ราคา 7,990 บาท พิเศษสุดสำหรับลูกค้าทรู (True) เมื่อซื้อ motorola one พร้อมสมัครแพ็คเกจรายเดือน 4G Fun Unlimited ราคา 499 บาทขึ้นไป พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 1,000 บาท (สัญญา 12 เดือน) สามารถซื้อเครื่องได้ในราคาพิเศษเพียง 3,990 บาท โปรโมชั่นสุดพิเศษนี้มีถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 นี้เท่านั้น