ติดตามเรา
Hot News บทความ

(รีวิว) Omelet Switch Pro + Wireless Controller จอยเกมสวิตซ์ เล่นบน PC ได้!

มีของใหม่น่าสนใจมารีวิวเพื่อนำเสนอให้กับคอเกมได้สนใจกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไหนที่กำลังมองหาจอยเกมสไตล์แบบ Nintendo Switch แต่สามารถเอาไปเล่นบนเครื่องอื่นอย่าง PC ได้ นั่นก็คือ Omelet Switch Pro + Wireless Controller ซึ่งได้มีวางขายแล้วในประเทศไทย

โดยสำหรับจอยเกม Omelet Switch Pro + Wireless Controller นั้นเป็นเบรนจาก Omelet Gaming ที่เป็นเบรนจากประเทศมาเลเซีย ที่กำเนิดมาจากผู้ที่รักในการเล่นเกม โดยสำหรับตัวจอยนี่จะเป็นรุ่นพิเศษจอยสีเหลือง สามารถเอาไปเล่นได้ทั้งเครื่องเกมอย่าง Nintendo Switch, PC รวมไปถึงมือถืออย่าง Android และ iOS โดยการเชื่อมต่อกับบลูทูธ หรือจะเชื่อมต่อโดยตรงกับ PC อย่าง Type-C ก็ได้ โดยตัวจอยนั้นมีคุณสมบัติหลักดังนี้

  • Anti-Friction Thumbstick
  • Advanced Turbo Mode
  • Gyro-Motion & Wake Up Mode (For Nintendo Switch)
  • Crystalised Buttons
  • Multicolor RGB Ring
  • LED Modes Indicator
  • Dual Vibration Adjustment
  • Haptic Feedback
  • Ergonomic Shape
  • Pro-Grammable” Back Buttons
  • Wired and Wireless Supported

มาดูงานออกแบบกันก่อน เทียบกับจอยเกมอย่าง XBOX 360 ที่ส่วนตัวมีแล้วบอกได้เลยว่านี่เป็นจอยที่มีขนาดค่อนข้างเบามาก เบาจนแบบว่าสามารถพกติดตัวเอาไปเล่นข้างนอกพกพาใส่กระเป๋าได้เลย ตัวจอยเป็นวัสดุแบบพลาสติก จับถนัดมือทั้งมือผู้หญิงและมือผู้ชาย แถมไม่ค่อยลื่นอีกด้วย เวลาเหงื่อออกก็จะไม่ต้องกังวลว่าจะลื่นหลุดมือ

ตัวจอยนั้นจะมีแบตในตัว 600mAh ซึ่งใช้เวลาซาร์จ 2 ชั่วโมงก็จะสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 8 ชั่วโมง (แต่ต้องปิดการสั่นและปิดไฟ ถ้าเปิดเวลาใช้งานก็จะลดลง) ด้วยอนิสงห์ของความเป็น Type-C จึงทำให้ซาร์จได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าจะเชื่อมต่อกับ Hub หรือกับ PC โดยตรงด้วย Type-C ก็จะใช้ไฟโดยตรงจากเครื่องได้ ก็จะสามารถเล่นได้สบายๆ

จุดเด่นของเจ้าจอยตัวนี้ก็คือปุ่มค่อนข้างเยอะ นอกจากปุ่มคลาสสิคบนตัวจอยที่มีมาอย่างครบครันแล้ว ด้านหลังยังมีปุ่มเสริมอย่าง XR และ XL (ถ้าเทียบกับจอย Xbox หรือจอยอื่นก็คือปุ่ม M1 กับ M2) ซึ่งหากเอาไปเล่นต่อจอยที่รองรับปุ่มดังกล่าว (หรือตั้่งค่าปุ่มได้เอง) ก็จะสามารถเพิ่มปุ่มกดดังกล่าวได้ นอกจากนี้ยังมีปุ่ม MR และ ML ด้านหลังอีกซึ่งจะเป็นปุ่มที่รองรับการสั่นสะเทือนจอยทั้งแบบหนักและเบา ทำให้จอยเวลาเอาไปเล่นจะได้ความหลากหลายมาก

ตัวจอยเมื่อมีการเปิดก็จะมีไฟ RGB มาด้วย แม้ด้วยตัวจอยที่เป็นสีเหลือง อาจไม่ใช่สีดำ เวลามีแสงไฟ RGB บนตัวปุ่มก็อาจจะดูตัดกันไปอีกแนวหนึ่ง ข้อดีคือไม่ได้ดูฉูดฉาดแสงไฟแว้บมากจนเกินไป (มีบางคนอาจจะไม่ชอบจอยเกมสีดำและมีไฟ RGB เพราะมันจะแยงตา) จึงทำให้โทนอารมณ์ความเป็นเกมมิ่งของจอยตัวนี้ทำออกมากลางๆ นั่นเอง

อีกจุดที่ส่วนตัวคนเขียนชอบเป็นพิเศษคือผิวสัมผัสของอานาล็อก (สีแดง) หากสังเกตวัสดุดีๆ แม้ตัวปุ่มอานาล็อกจะเป็นพลาสติก แต่รอบข้างนั้นจะเป็นยางแบบกันลื่นผิวไม่เรียบ เจ้าปุ่มอานาล็อกนี้จะเป็นปุ่มที่คนเล่นจะต้องกดใช้งานให้บ่อยที่สุด ดังนั้นการที่มีขอบกันลั่นมาจะทำให้เวลาเล่นนิ้วไม่ลื่นหลุดมือได้ง่ายแม้จะมีเหงื่อออก แต่ผิวสัมผัสก็ไม่ได้ทำออกมารู้สึกหยาบอะไรนัก เป็นอีกหนึ่งความใส่ใจจากผู้สร้างที่คำนึงถึงจุดนี้เป็นอย่างดีทีเดียว

ในส่วนของการเชื่อมต่อและการมองเห็นนั้น ตัวจอยตัวนี้จะเป็นจอย Switch หมายความว่าตัวจอยออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมบน Switch เป็นหลัก แต่ในการเอาไปเล่นบน PC นั้น โดยมากหากเกมนั้นๆ มองเห็นเป็นจอยธรรมดาที่ไม่ได้แยกระหว่าง Xbox กับ PS ก็จะมองเห็นเห็นจอยปกติ ใช้เล่นได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นเกมที่มีการแยกจอยระหว่าง Xbox กับ PS จากการทดสอบจะพบว่าเกมจะมองเห็นจอยตัวนี้เป็นจอย PS ซึ่งอาจะมีผลกระทบต่อคนเล่นที่ถนัดจอยแบบ Xbox ได้

ยกตัวอย่างเช่น เกมทั่วๆ ไปอย่าง Vampire Survivors หรือ Ori and the Blind Forest แม้แต่ Honkai: Star Rail ก็จะมองเห็นเป็นจอยประเภทเดียว จึงสามารถเล่นได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเอาไปเล่นกับเกมอย่าง Genshin Impact ตรงนี้จะเริ่มมีปัญหาละเพราะไม่ใช่จอย Xbox จึงมองเป็นจอย PS แถมบางปุ่มอย่างอานาล็อกขวาไม่สามารถหันมุมมองได้ หรือเกมอย่าง Little Witch Nobeta อันนี้งงมาก เพราะต่อจอยแล้วเกมปุ่มรวนเองทันที

ซึ่งทำให้เราพิสูจน์ได้ว่า จอยเกมตัวนี้ไม่เหมาะกับเกมที่รองรับจอย Xbox เป็นอีกหนึ่งข้อเสียที่เราต้องเรียนกันตามตรง พูดง่ายๆ ก็คือสำหรับคนเล่น PC หากจะซื้่อจอยนี้ไปเล่น ก็ต้องมองหาเกมที่รองรับจอยแบบ PS มาเล่นจะชัวร์กว่า (เพราะเดิมที เกม PC ที่เล่นจอยนั้นมักจะรองรับ Xbox มากกว่าจอย PS อยู่แล้ว) แต่ถ้าคนเล่นมีเครื่อง Nintendo Switch อยู่กับตัว และต้องการเอาจอยที่สามารถเอาไปเล่นบน PC (ที่รองรับจอย PS) ได้บ้าง ก็เป็นจอยที่อยากแนะนำเพราะซื้อตัวเดียวเอาไปเล่นได้ทั้ง Nintendo Switch, PC และมือถือนั่นเอง

นอกจากนี้ตัวจอยยังมีโหมดฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆ อีก อาทิเช่น

  • โหมดเทอร์โบขั้นสูง โดยการกดปุ่ม ‘T’ (ด้านหลังจอย) ค้างไว้แล้วกดปุ่มแอคชันปุ่มใด ๆ เพื่อกำหนดฟังก์ชันเทอร์โบให้กับปุ่มที่เลือก กดปุ่ม ‘T’ ค้างไว้แล้วกดปุ่มแอคชันปุ่มใด ๆ อีกครั้งเพื่อตั้งฟังก์ชันเป็น ‘Auto Turbo’ ปุ่มจะทำงานหลายครั้งเมื่อคลิกและปล่อย และหยุดเมื่อผู้เล่นคลิกปุ่มอีกครั้ง
  • ไจโรสโคปและโหมดปลุก ปลุกเครื่อง Nintendo Switch จากโหมดสลีปโดยกดปุ่ม ‘Home’ (หลังจากจับคู่ครั้งแรก) รองรับการเล็งด้วยการเคลื่อนไหวไจโรสโคปสำหรับ Nintendo Switch
  • ไฟ RGB หลายสี มี 3 โหมด และหลายสีให้เลือก สามารถตั้งค่าสีได้โดยกดปุ่ม ‘T’ + ‘ปุ่มอนาล็อกซ้าย (คลิกหนึ่งครั้งเพื่อเปลี่ยนสีและคลิกสองครั้งเพื่อเปลี่ยนโหมด)’
  • การปรับการสั่นสะเทือนแบบคู่ สั่นสะเทือนในเกมเพื่อรับฟีดแบ็คแบบสัมผัส สามารถปรับความแรงของการสั่นสะเทือนได้ด้วยปุ่ม ‘Wave’ (25%, 50%, 75%, 100%, ปิด)
  • ปุ่มด้านหลัง 2 ปุ่ม (ด้านละ 1 ปุ่ม) ที่สามารถกำหนดฟังก์ชันปุ่มใด ๆ ได้เมื่อกำหนดแล้ว กำหนดปุ่มโดยกด ‘M’ + ‘ปุ่มที่จะกำหนดปุ่มด้านหลัง’

สรุปจุดเด่นของ Omelet Switch Pro + Wireless Controller

  • น้ำหนักที่เบา มีแบตในตัว ซาร์จไว 2 ชั่วโมงและเล่นได้นาน 8 ชั่วโมง
  • สีจอยสีเหลือง ตัดกับไฟ RGB แถมเปลี่ยนโหมดได้
  • มีโหมดเทอร์โบ และโหมดปลุกเครื่อง Nintendo Switch ได้
  • ปุ่มอนาล็อกกันลื่น ช่วยลดการลื่นไหลของนิ้ว
  • เชื่อมต่อเล่นได้ทั้ง Nintendo Switch, PC และมือถือ

ข้อเสีย

  • ไม่รองรับเกมบน PC ที่ไม่ค่อยซัพพอร์ตจอยสไตล์ PS
  • ขนาดที่เล็กและเบากว่า XBOX อาจจับไม่ถนัดสำหรับคนมือใหญ่

สำหรับคนที่สนใจจอยเกม Omelet Switch Pro + Wireless Controller นั้นได้วางจำหน่ายแล้วในราคา 1,399 บาท พร้อมรับประกันจากผู้ผลิต 1 ปี หากสินค้ามีปัญหา ส่งเคลมกับตัวแทนได้เลย โดยสามารถซื้อได้ตามตัวแทนจำหน่าย ตามลิสต์ข้างล่างนี้

  • Golden Game
  • Art and Gun
  • Opensource
  • 4lements
  • Plawarn
  • Siam Gameshop

ขอขอบคุณ ทาง Omelet Gaming สำหรับตัวจอยที่ส่งมาให้ทางเรารีวิวในครั้งนี้ด้วยนะครับ

Leave a comment