โดยปกติแล้วสำหรับการเขียนรีวิวตัวเกมนั้น ตัวคนเขียนเองมักจะเล่นเกมให้จบ นั่นหมายถึงตัวเกมนั้นจะต้องเป็นเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์แล้ว ทว่า สำหรับตัวเกม Batman Arkham Knight นั้น เวอร์ชั่น PC กลับเป็นเวอร์ชั่นที่มีปัญหาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกราฟฟิกเพราะมีการพอร์ทลงมาค่อนข้างแย่ จนทาง Warner Brothers ตัดสินใจเอาเกมนี้ออกจาก Steam และร้อนถึงทีมงาน NVIDIA ต้องส่งทีมวิศวกรมาช่วยพอร์ทตัวเกมเวอร์ชั่น PC ใหม่ ทำให้บทความรีวิวครั้งนี้จะเป็นช่วงที่ตัวเกมยังไม่สมบูรณ์ทางด้านกราฟฟิกนะครับ
สำหรับตัวเกม Batman Arkham Knight ในภาคนี้จะเป็นการปิดตำนานเรื่องราวของซีรี่ย์ Arkham ทั้งหมด ซึ่งเรื่องราวจะต่อมาจากภาค Arkham City หลังจากการเสียชีวิตของโจ๊กเกอร์ ศัตรูคู่ปรับของแบทแมน ทำให้เหล่าวายร้ายได้ประกาศสงครามกับแบทแมนเต็มตัว โดยเฉพาะ Scarecrow วายร้ายที่ใช้ก๊าชพิษสร้างประสาทหลอนกับผู้คน และศัตรูตัวใหม่ที่เรียกตัวเองว่า Arkham Knight และเป็นศัตรูที่รู้เรื่องของแบทแทนค่อนข้างดีด้วย
ในรอบนี้ ตัวร้ายไม่ได้ออกมาอาลาวาดแต่ในพื้นที่คุกหรือแค่ออกมาป่วน แต่วางแผนกันมาอย่างดี และข่มขู่ให้ประชาชนย้ายออกจากเมืองก่อนที่สงครามระหว่างตัวร้ายกับแบทแมนจะเริ่มต้น ส่งผลทำให้เมืองก๊อดแธมทั้งเมืองกลายเป็นเมืองร้าง มีแต่เหล่าวายร้ายเดินเพ่นพ่าน (เพราะคุก Arkham นั้นล่มไปแล้ว) กับเหล่าตำรวจที่พยายามจับคนร้ายมาเข้าคุกให้ได้ ทำให้การต่อสู้ปะทะในครั้งนี้กว้างที่สุดในบรรดาเกมซีรี่ย์แบทแมนทั้งหมดเพราะมันคือเมืองทั้งเมืองเลยทีเดียว
ระบบการต่อสู้ปะทะในภาคนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม นั่นก็คือบุกทะลุทะลวงเข้าไปอัดหน้าตัวร้ายกระทืบให้สลบ หรือจะใช้วิธีลอบเร้นจับให้สลบทีละคนสองคนก็ได้แล้วแต่คนเล่น สิ่งที่ต่างก็คือระบบการปะทะในภาคนี้ได้ทำออกมาได้รวดเร็วขึ้นและใช้ระบบ HotKey หรืออุปกรณ์ไฮเทคที่แบทแมนใช้ในการรับมือกับเหล่าร้ายได้สะดวกขึ้นเพราะปุ่มบังคับยังคงเดิม เพื่อไม่ให้รกหน้าจอและคนเล่นคุ้นชินกับการใช้งานมากที่สุด
แต่ถึงจะเป็นระบบเกมเพลที่คุ้นเคย แต่งานนี้ศัตรูของเราได้วางแผนมาดีกว่าเดิม ทำให้แบทแมนต้องเจอกับศัตรูที่ที่ใช้ปืนและอาวุธที่มากขึ้น กล่าวได้ว่านี่อาจจะเป็นแบทแมนภาคที่จะเล่นยากที่สุดในการรับมือพวกลูกกระจ๊อก (ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะคนเล่นผ่านมาแล้วตั้ง 2 – 3 ภาค) รวมไปถึงมีท่วงท่าในการรับมือกับอีกฝ่ายได้ต่อเนื่อง ลื่นไหล และมีท่าโจมตีที่หลากหลายขึ้น (จากเดิมในภาค Arkham Origin ที่ยังเป็นท่าโจมตีแบบเดิมๆ)
แต่ครั้งนี้พื้นที่ในการเล่นนั้นจะกว้างกว่าเดิมมากเพราะเป็นเมืองก๊อดแธมทั้งเมือง จะให้วิ่งและใช้ผ้าคลุมร่อนไปมาคงจะเหนื่อยหอบตายกันก่อน ฉะนั้นลูกเล่นที่เป็นไฮไลท์เด็ดของภาคนี้ก็คือ รถหุ้มเกราะ แบทโมบิล ของแบทแมน ที่คนเล่นจะสามารถเรียกมาใช้ตรงไหนและขับมันไปที่ไหนก็ได้ อารมณ์จึงออกแนวคล้ายๆ กับเกม Open World ที่มีพหนะไปเลย แต่แน่นอนว่ารถแบทโมบิลนั้นไม่ได้เป็นแค่พาหนะ เพราะคนเล่นจะต้องใช้มันทำหลายๆ อย่างมาก
ไล่ตั้งแต่มันสามารถแปลงสภาพเป็นโหมดต่อสู้เพื่อใช้ในการโจมตีอีกฝ่าย เพราะเนื่องจากอีกฝ่ายนั้นได้มีการเอารถถังจำนวนมากออกมาแล่นตามถนนเพื่อหวังกำจัดแบทแมนโดยเฉพาะ ทำให้ฝ่ายแบทแมนต้องมีพาหนะที่เหมาะสมในการต่อกร นอกจากนี้ในเกมคนเล่นจะต้องใช้รถแบทโมบิลในการผ่านอุปสรรคต่างๆ เช่น แล่นผ่านจุดต่างๆ , ดึงสลิง หรือเพิ่มพลังไฟฟ้า และหลายๆ ฉากนั้น รถแบทโมบิลจะมีส่วนสำคัญในเรื่อง ขาดไม่ได้เลยทีเดียว
จริงๆ ต้องบอกว่าคอนเชปของรถแบทโมบิลนั้นมันคือของเล่นที่เจ้าของจะสามารถใช้ตอนไหนก็ได้ แต่การบังคับรถแบทโมบิลนั้นยอมรับว่าไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ตัวรถมีการคุมค่อนข้างยากและกว่าจะจับทางได้ อาจต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน แถมบางสถานการณ์นั้นยอมรับว่า ร่อนไปยังจะไปไวกว่าขับรถแบทโมบิลไปเลย แถมตัวรถนั้นมีบู้ทติดมาให้เพื่อให้รถไปไวขึ้น แต่มันทำให้การขับยากเพิ่มเป็นท่าตัว ซึ่งบางทีไม่ต้องใช้ยังจะคุมรถได้ง่ายกว่าเลย
ทางด้านความยากง่ายในการเล่นนั้น ต้องบอกว่าตัวเกมยังคงคอนเชปเดิมที่ให้คนเล่นเข้าถึงง่ายๆ ปริศนาหลายอย่างอาศัยลูกเล่นที่คนเล่นจะต้องสังเกต แต่ทั้งนี้ตัวเกมนั้นไม่ได้มีการอธิบายแบบต่อเนื่องเหมือนเกมภาคก่อนๆ ทำให้คนเล่นนั้นจำเป็นต้องผ่านเกมภาคก่อนๆ มาก่อนถึงจะสามารถปรับตัวให้เล่นได้รู้เรื่อง
จริงๆ ต้องบอกว่า นอกจากระบบเกมเพลที่อัพเกรดขึ้นมาแล้ว ไฮไลท์สำคัญของตัวเกมภาคนี้ก็คือเนื้อเรื่อง ในภาคอื่นๆ นั้นเนื้อเรื่องจะอยู่แค่ในบริเวณคุก แต่สำหรับภาคนี้มันคือทั้งเมือง และเป็นภาคที่เนื้อเรื่องเข้มข้นที่สุดแล้ว เพราะเหล่าวายร้ายได้ขยายความหายนะมันทั้งเมือง ทำให้เนื้อเรื่องของเกมภาคนี้น่าติดตามมากที่สุด ให้อารมณ์เหมือนดูหนังซีรี่ย์ที่คาอารมณ์ทุกครั้งที่เล่นเนื้อเรื่องหลักเลยหละครับ
แต่ต้องบอกว่าตัวเกมนั้นค่อนข้างอิงเนื้อหากับคอมมิคมากเกินไปเหมือนดั่งเช่นภาคก่อนๆ ทำให้ถ้าคนเล่นไม่ได้อ่านคอมมิคมาก่อนอาจจะรู้สึกงงที่มาที่ไปของตัวละครได้ แม้ว่าตัวเกมจะการอธิบายตัวละครต่างๆ มาให้ แต่อารมณ์ของคนเล่นนั้นจะไม่ถึงที่สุดถ้าไม่เคยอ่านคอมมิคมาก่อน แน่นอนว่าอารมณ์ในการเล่นจะไม่สามารถอินถึงที่สุดได้
สิ่งที่ตัวเกมแถมมาให้คนเล่นก็คือเวลาในการเล่น นอกจากขนาดพื้นที่ของเมืองที่กว้างใหญ่กว่าเดิมที่จะทำให้คนเล่นมีเวลาสำรวจและเล่นนานกว่าภาคก่อนแล้ว ตัวเกมจะบังคับให้คนเล่นเก็บเนื้อเรื่องรองให้ครบถึงสามารถเจอฉากจบที่แท้จริงได้ ทำให้เกมนี้คนเล่นจะมีอะไรให้ทำเยอะกว่าภาคก่อนๆ
แน่นอนว่าสิ่งที่จะเป็นข้อเสียจริงๆ ของเกมนี้ก็คือ “การพอร์มเวอร์ชั่น PC ที่ยํ่้าแย่” นั่นเอง เพราะจริงๆ แล้วตัวเกมนั้นควรจะเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมแห่งปี แต่มาตกม้าตายเรื่องของการพอร์ท PC มาแย่มากๆ คนไหนที่สเปคคอมไม่แรงเทพจริงๆ บางคนจะเล่นไมได้เลย ที่แย่กว่าก็คือ ตัวเกมมีอาการกระตุกเป็นระยะๆ แม้ว่าคอมจะเทพแค่ไหน แถมกราฟฟิกหลายช่วงเรนเดอร์ออกมาหยาบอีกต่างหาก ทำให้ตัวเกมนั้นโดนแฟนๆ เกมที่เป็นชาว PC ถล่มยับกันเป็นจำนวนมาก
เรื่องของกราฟฟิกนั้นคงต้องปล่อยให้ทางทีมพัฒนาเกมและ Nvidia แก้ไขกันต่อไป แต่สำหรับตัวเกมนั้น ด้วยการเล่าเรื่องขั้นเทพ เนื้อเรื่องที่สุดยอด และเกมเพลในแบบฉบับอัพเกรด ทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเกมนั้นเป็นที่สุดของที่สุดของเกมซุปเปอร์ฮีโร่ที่ทำออกมายอดเยี่ยม แน่นอนว่าสำหรับแฟนเกมชาว PC นั้น ขอแนะนำให้ใจเย็นๆ รอจนกว่าเกมจะแก้ไขกราฟฟิกให้เสร็จแล้ว แล้วค่อยไปสัมผัสเกม (เพราะยังไงตอนนี้ก็ยังซื้อไม่ได้อยู่ดี) แล้วจะรู้ว่า ตัวเกมนั้นมันยอดเยี่ยมขนาดไหนครับ
จุดเด่น
– เนื้อเรื่องเข้มข้นกว่าเดิม หักมุมและลุ้นระทึกแบบถี่ๆ รัวๆๅๅ
– เกมเพลอัพเกรด ไวขึ้น ง่ายขึ้น และฉับไวมากขึ้น
– การเล่นแบทโมบิล ที่ทำให้ความฝันของแฟนๆ เป็นจริง
– ตัวเกมมีความหลากหลายขึ้น เล่นได้นานขึ้นกว่าเดิม
ข้อเสีย
– เกมยังคงอิงกับฉบับคอมมิคมากไป ถ้าคนไหนไม่อ่านจะงงและไม่อินเท่าที่ควร
– ตัวเกมเพลอิงจากภาคเก่าค่อนข้างมาก ถ้าไม่เคยเล่นภาคเก่ามาก่อนจะงงระดับหนึ่ง
– แบทโมบิลบังคับไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
– แน่นอน การพอร์ท PC ที่แย่มาก ส่งผลทำให้เกิดกราฟฟิกแย่ , กระตุก และเจอบั๊กมากกว่าทุกภาคที่ผ่านมา!
..
สำหรับคนไหนที่สนใจ สามารถไปกด “เพิ่มในสิ่งที่ฉันอยากได้” ใน Steam ไว้ก่อน เพื่อรอให้เกมออกมาวางจำหน่ายอีกครั้งได้ครับ
ลิ้งหน้าร้านค้าบน Steam – http://store.steampowered.com/app/208650/
