ครั้งแรกของตัวละครนักร้องเสมือนผู้เป็นตัวแทนวัฒนธรรม “โมเอะ” ของญี่ปุ่นอย่าง “ฮัตสึเนะ มิกุ” จะได้มีบทบาทของตัวเองในภาพยนตร์ ซึ่้งได้เข้าฉายในไทยแล้ววันนี้
โดยตัวภาพยนตร์นั้นเป็นการเอาเนื้อเรื่องจากเกม “HATSUNE MIKU: COLORFUL STAGE!” ซึ่งเป็นเกมมือถือแนวดนตรีเอามาทำเป็นภาพยนตร์ เล่าเรื่องราวในพื้นที่แถบซิบุยะ ที่มีเหล่าเด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งหมด 6 วงดนตรี ที่มีความฝัน ความปรารถร่วมกัน และสามารถเข้าพื้นที่ลึบลับอย่าง “เซไก” สถานที่อีกมิติหนึ่ง ซึ่งในนั้นจะมีเหล่านักร้องเสมือนอย่าง “ฮัตสึเนะ มิกุ” และคนอื่น ๆ ที่จะมีบุคลิกและหน้าตาแตกต่างกันไปตามบรรยากาศของเซไกนั้น ๆ คอยช่วยเหลือเป็นผู้คอยแนะนำ ให้วัยรุ่นเหล่านั้นค้นพบตัวเองในแบบของเขาเองและได้เล่นดนตรีในแบบที่พวกเขาเป็น แต่เรื่องราวในภาพยนตร์นั้นจะเล่าถึง “ฮัตสึเนะ มิกุ” คนใหม่ที่ไม่เคยปรากฎในเกมมาก่อน ที่ไม่สามารถร้องเพลงได้ เพราะผู้คนที่มีความปรารถนาไม่สามารถตอบรับเสียงเพลงของเธอได้ และการเจอกันของ “ฮัตสึเนะ มิกุ” และ “โฮชิโนะ อิจิกะ” จากวง Leo/Need หนึ่งในตัวเอกวัยรุ่นหญิง จะทำให้มิกุได้เรียนรู้เรื่องของดนตรี เสียงเพลง เพื่อความว่า มิกุจะสามารถถ่ายทอดเสียงเพลงไปยังเหล่าผู้คนที่มีความปรารถนาเหล่านั้นให้ได้
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวดนตรีเต็มรูปแบบแต่มีเนื้อเรื่องแนวดราม่าเข้ามาช่วย ปัญหาของหนังเรื่องนี้คือเพราะเป็นหนังที่สร้างจากเกม ทำให้คนที่ไม่ได้เล่นเกมอาจจะรู้สึกเนือย ๆ กับช่วงต้นของเรื่อง เพราะหนังจะไม่มีการเล่าเรื่องหรือปูเรื่องราวของตัวละครหลักทั้่งหมด 6 วงเลย แต่จะแสดงผ่านเรื่องราวของพวกเขาแทนซึ่งจะทำให้เห็นว่าแต่ละคนนั้นมีบุคลิก นิสัย และความต้องการอย่างไรกันบ้าง ซึ่งทั้งหมดนั้นจะมาเชื่อมโยงกัน โดยที่มี “มิกุ” เป็นศููนย์กลาง ไม่ว่าจะเป็นมิกุที่พวกเขาพบเจออยู่แล้วในเซไกของพวกเขา กับ “มิกุคนใหม่” ที่จะปรากฎในหนังเรื่องนี้ด้วย แต่ขณะเดียวกัน สำหรับคนที่เป็นแฟนมิกุ รู้จักตัวละครเหล่านี้อยู่แล้ว หรือเล่นเกมอยู่แล้ว ก็จะเจอกับฉากสุดฟินที่เสิร์ฟมาให้คนเล่นอย่างไม่พัก
เรื่องราวจริง ๆ ของหนังจะมาเริ่มต้นเอาตอนที่มิกุคนใหม่ได้เจอกับ โฮชิโนะ อิจิกะ หนึ่งในตัวละครหลักของเรื่อง แม้ว่าตัวละครที่เยอะจะเป็นปัญหาสำหรับคนที่อาจไม่ได้รู้จักหรือไม่ได้เล่นเกมมาก่อน แต่การจ่ายบทของตัวละครเพื่อให้เห็นภาพรวมของพวกเขา รวมไปถึงบุคลิกอันโดดเด่นนั้นก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดี เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มที่ต้องอาศัยการตั้งใจดู แต่เมื่อตั้งใจดูแล้วก็จะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้ผลิตโดย P.A. WORKS ที่มีผลงานผลิตอนิเมะเรื่องดัง ๆ หลายเรื่องอย่าง Uma Musume: Pretty Derby, Angel Beats!, ขงเบ้ง เจาะเวลามาปั้นดาว ซึ่งเป็นสตูดิโอที่ทำงานภาพออกมาได้เนี๊ยบ ประสบการณ์การชมในโรงภาพยนตร์นั้นถือว่าออกมาดีเลิศ เฟรมของภาพไหลลื่นซึ่งบ่งบอกว่าเป็นการทำไฟล์ภาพออกมาให้เหมาะสมในการชมภาพยนตร์อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม วันที่ทางเราไปชมในรอบสื่อนั้น ลำโพงของโรงภาพยนตร์ ตรงเสียงกลองฟังกึกก้องทุ้ม ๆ ไปหน่อย ทำให้อรรถรสตอนช่วงฉากดนตรีลดลงไปบ้าง แต่คิดว่าถ้าไปชมในโรงภาพยนตร์โรงอื่นที่ลำโพงดี ๆ จะไม่มีปัญหาส่วนนี้
แน่นอนว่าทีเด็ดของหนังเรื่องนี้ก็คือเพลง คนดูจะได้พบกับเพลงต่าง ๆ ในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเพลงจากวงดนตรีทั้ง 6 วงที่มาในสไตล์แตกต่างกัน และเพลงของ “ฮัตสึเนะ มิกุ” เอง โดยทุกเพลงในหนังเรื่องนี้มีการแปลเนื้อเพลงภาษาไทยทั้งหมด แถมหลังจากหนังจบก็ยังมี After Live หรือมินิคอนเวิร์ตของมิกุมาให้ชมกันอีกด้วย ซึ่งเป็นการมอบประสบการณ์การชมภาพยนตร์ของฮัตสึเนะ มิกุ ที่หาไม่ได้ง่าย ๆ ในไทย
แม้ว่าตัวหนังจะมีข้อด้อยในส่วนที่ว่าไปดังกล่าว ด้วยความเฉพาะทางไปหน่อยแต่ไม่ได้มีการอธิบาย เล่าเรื่องใด ๆ เพื่อปูพื้นสำหรับคนดูที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ในแง่ของความสนุกของภาพยนตร์นั้นยังคงมาเต็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบและรักในตัวของ “มิกุ” ที่รับรองว่า การปรากฎตัวครั้งแรกของมิกุในภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างแน่นอน
ภาพยนตร์ “COLORFUL STAGE! เดอะมูฟวี่ มิกุที่ไร้เสียงเพลง” เข้าฉายแล้ววันนี้ โปรดตรวจสอบโรงภาพยนตร์ที่ฉายตามเพจของโรงภาพยนตร์
