อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าจับตามอง หลังจากรุ่นแรกออกมาแล้วก็ได้ตีตลาดแทบแตกเพราะใช้สเปคแรงอย่าง Snapdragon 845 แต่กลับขายในราคาหมื่นนิดๆ ตอนเปิดตัว และตอนนี้รุ่นสองก็ได้ออกมาดแล้ว พร้อมใช้ Snapdragon 865 รุ่นเรือธง ถึงแม้ราคาจะเขยิบมาที่ 17,999 บาท (หมื่น 8 ทอนบาทนึง) แต่ก็ยังถือว่าถูกกว่ามือถือเรือธงอยู่ดี แต่จะคุ้มจริงรึไม่ มาดูกันครับ
สเปคหลักๆ ของตัวเครื่อง
- Snapdragon 865 (พร้อมรองรับ 5G)
- เทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool Technology 2.0
- ขนาดหน้าจอ 6.67 นิ้ว AMOLED
- ใช้ Corning®️ Gorilla®️ Glass 5
- กล้อง 4 เลนส์ 64MP Sony IMX686 พร้อม AI และอัดวีดีโอได้ 8K
- แบตเตอร์รี่ 4700 mAh พร้อมซาร์จไว 30W
จอใหญ่ขึ้น แต่สัมผัสแบบเดิม
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/462-696x392.jpg)
จุดเด่นของ POCO F2 Pro เลยก็คือขนาดจอที่ใหญ่กว่าเดิมมากๆ จนเรียกได้ว่าคนละแบบกับรุ่นแรกกันเลยทีเดียว นั่นเพราะกล้องหน้าจะเปลี่ยนเป็นกล้องป็อบอัพแทนและไม่มีติ่งหรือเจาะรูบนเครื่อง จึงทำให้หน้าจอนั้นแสดงผลออกมาได้เต็มตากว่าเดิมมากๆ
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/463.jpg)
แน่นอนว่าถ้าเล่นเกมที่รองรับขนาดหน้าจอกว้างสุดๆ หรือเอาไปดูบน Netflix ในบางเรื่องก็จะสามารถสัมผัสหน้าจอที่กว้างกว่าเดิมมากๆ บอกได้เลยว่าถ้ากำลังมองหามือถือที่มีขนาดใหญ่ ตัวนี้จะเหมาะสมเอาไปใช้อย่างมาก แต่ถ้าเป็นเกมบางตัวที่ไม่ได้รองรับจอใหญ่ขนาดนี้ก็จะเหลือขอบข้างๆ เอาไว้
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/464-696x392.jpg)
แต่ในแง่ของการสัมผัสนั้นจะไม่ได้แตกต่างจากรุ่นแรกเลย ปุ่มปิด-เปิดเครื่อง ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง มาแบบตำแหน่งเดิมเด๊ะๆ ทำให้คนไหนจับรุ่นแรกมาแล้ว ก็จะชินมือกับรุ่นสองได้ในทันทีแม้ว่าจะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าก็ตาม
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/465-696x392.jpg)
ตามสเปคนั้น หน้าจอมีขนาด 6.67 นิ้ว AMOLED ด้วยเซ็นเซอร์สภาวะแสงแบบ 360 องศา อัตราคอนทราสต์สูงถึง 5000000:1 สามารถปรับให้ภาพสว่างขึ้นสูงสุดถึง 500 nits (typ) / 800 nits (HBM) ที่ และมีระบบ HDR10+, การปรับแสงสว่างอัตโนมัติ (DC) และโหมด Sunlight 2.0 ซึ่งถ้าเทียบกับรุ่นแรกแล้ว จอตัวรุ่นสองดีกว่ามากจริงๆ
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/466-696x392.jpg)
ดีกว่ายังไง? คำตอบก็คือด้านที่สู้แสงได้ดีกว่ามากๆ ตัวรุ่นนี้จะสามารถสู้แสงกลางแจ้งและสว่างกว่ารุ่นแรก ระดับที่ว่าหากแสงไม่ได้แดดจัดเกินไป ก็สามารถเปิดเล่นเกมหรือดูหนังได้สบายๆ เลย ส่วนการเล่นที่มืดก็จะมีแสงถนอมสายตามาให้ เทียบกันแล้ว แสงหน้าจอของรุ่นสองดีกว่ารุ่นแรกอย่างเห็นได้ชัด
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/467-696x392.jpg)
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนข้อเสียของรุ่นแรกนั้นจะแอบตามมารุ่นสองด้วยนิดหน่อย คนไหนเคยใช้รุ่นแรกมาก่อนจะรู้ดีว่าบางทีจะเกิดปัญหาทัชเพี้ยนหรือจู่ๆ ก็ขยับเอง จากการที่ใช้รุ่นสองมาเป็นเวลาสองอาทิตย์ แม้ว่าจะยังไม่เจอทัชหลอนแบบรุ่นแรก แต่ในแง่ความแม่นยำของการกดนั้นก็ไม่ได้ดีเมื่อเทียบกับมือถือเรือธง ออกมาแบบธรรมดาๆ เสียมากกว่า
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/468-696x392.jpg)
อีกจุดเด่นหนึ่งของรุ่นนี้ก็คือ หน้าจอได้ใช้ Corning®️ Gorilla®️ Glass 5 ครอบเอาไว้ทั้งหน้าและหลัง แม้ว่าจะไม่ได้ใช่รุ่น 6 ที่กันหน้าจอกระแทกได้ดีกว่า แต่ก็สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีระดับหนึ่ง แต่ก็ยํ้าว่า หน้าจอไม่ใช่ Corning®️ Gorilla®️ Glass รุ่น 6 จึงไม่รองรับแรงกระแทกที่ตกโดยเฉพาะแบบหน้าคว่ำ แนะนำให้ไปติดฟิล์มกันกระแทกช่วยเสริมเอาไว้จะดีกว่าครับ
แบตอย่างถึก ซาร์จอย่างไว
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/470-696x392.jpg)
ส่วนตัวของคนเขียนที่ได้ใช้รุ่นแรกอยู่แล้ว ขนาดมือถือผ่านมาปีกว่าๆ แบตเตอร์รี่ยังถึก ระดับที่ว่าเปิดแชร์เน็ตไปด้วยพร้อมกันหลายเครื่อง แล้วฟาร์มเกมแบบปรับกราฟฟิกสุดไปด้วยก็ยังอยู่ได้ทั้งวัน แน่นอนว่ารุ่นสองเองก็มีจุดเด่นเรื่องแบตเตอร์รี่ที่ถึกและซาร์จไวเหมือนกัน แน่นอน ช่องเสียบสายซาร์จคือ TYPE C
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/471-1-696x392.jpg)
ตามสเปคนั้น ใช้แบตเตอร์รี่ 4700mAh พร้อมชาร์จไวถึง 30 วัตต์ ที่สามารถชาร์จได้ถึง 64% ภายใน 30 นาทีและ 100% ใน 63 นาที คนเขียนอาจไม่ได้ทดสอบแบบที่เจ้าอื่นทดสอบ แต่ได้ลองทดสอบโดยการเปิดเล่นเกมแบบตั้งกราฟฟิกสูงสุดติดต่อกันแบบไม่กดออกจากเกมเลย ก็พบว่าสามารถเล่นเกมได้ติด่อกันแบบ 6 – 7 ชั่วโมงได้สบายๆ (แลกกับเครื่องร้อนจี๋เพราะทำงานหนัก) ดังนั้นเครื่องเดียวเอาอยู่สบายๆ
กล้องพัฒนาขึ้น เพิ่มฟีเจอร์ให้ถ่ายสนุกขึ้น
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/472-696x392.jpg)
ตามสเปคแล้ว POCO F2 Pro มีกล้องหลังมาให้ถึง 4 ตัว พร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX686 กล้องเลนส์อัลตร้าไวด์ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มุมมอง 123 องศา เลนส์มาโครความละเอียด 5 ล้านพิกเซลและเลนส์ depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ซึ่งด้วยสเปคแบบนี้แน่นอนว่าย่อมถ่ายภาพออกมาได้สวยแน่นอน และถ้าว่ากันตรงๆ ก็ถ่ายออกมาสวยจริงๆ
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/473-696x392.jpg)
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/474-696x392.jpg)
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/475-696x392.jpg)
เทียบกับรุ่นแรกแล้ว ภาพที่ถ่ายออกมานั้นมีการเก็บรายละเอียด ดีเทลออกมาคมชัดกว่ามาก ระดับที่ว่าซูมภาพเข้าก็ยังชัด แถมยังมีกล้องมาให้ถึง 3 ระยะในกล้องกลัง คือมุมกว้าง, มุมปกติ และเลนส์ซูม 2 เท่าโดยไม่เสียรายละเอียด ใช้ได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ จึงทำให้ถ่ายได้สนุกกว่าเดิม
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/476-696x392.jpg)
นอกจากนี้โหมดวีดีโอได้รองรับการถ่ายทุกไซส์พร้อมครบโดยไม่ต้องรออัพเดตเหมือนรุ่นแรก และมาพร้อมกับการถ่ายสเกลใหญ่ระดับ 8K ซึ่งงานภาพของกล้อง POCO เองก็ถ่ายออกมาได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว และยังมีเพิ่มโหมดใหม่ อย่างจับการเคลื่อนไหวของวัตถุ และ ตั้งเส้นตรงให้เพื่อให้ถ่ายวีดีโอออกมาได้ดีขึ้นด้วย
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/477-696x392.jpg)
นอกจากนี้โหมดวีดีโอได้รองรับการถ่ายทุกไซส์พร้อมครบโดยไม่ต้องรออัพเดตเหมือนรุ่นแรก และมาพร้อมกับการถ่ายสเกลใหญ่ระดับ 8K ซึ่งงานภาพของกล้อง POCO เองก็ถ่ายออกมาได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว และยังมีเพิ่มโหมดใหม่ อย่างจับการเคลื่อนไหวของวัตถุ และ ตั้งเส้นตรงให้เพื่อให้ถ่ายวีดีโอออกมาได้ดีขึ้นด้วย
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/478-696x392.jpg)
อย่างไรก็ตาม ถึงกล้องจะพัฒนาขึ้น ตรงๆ ก็ยังสู้รุ่นเรือธงไม่ได้ ถ้่าจะเทียบประสิทธิภาพก็ต้องอยู่ประมาณ เกินครึ่ง ของมือถือรุ่นเรือธงกับมือถือรุ่นประหยัด คือดีกว่าครึ่งหนึ่งแน่ๆ ราว 35% ที่สำคัญคือ ในแง่ของระบบ AI นั้นยังสู้รุ่นแรกไม่ได้ ที่รุ่นแรกมีการอัพเดตซอฟแวร์มายาวนานกว่า ซึ่งตรงนี้ไมได้แปลว่ากล้องไม่ดี กล้องดีกว่าแน่นอน เพียงแต่เราต้องรอให้ทีมงานอัพเดตกันอีกนิด รับรองว่าเหนือกว่ารุ่นแรกหลายขุม ซึ่งอันนี้ก็ไม่น่าห่วง เพราะขนาดรุ่นแรกผ่านมาเป็นปีๆ ก็ยังมีอัพเดตอยู่
ตัวอย่างภาพที่ถ่าย
เล่นเกมดีขึ้นกว่าเดิม ลื่นปรี๊ดแทบทุกเกม
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/479-696x392.jpg)
มาถึงไฮไลท์ของเรากันแล้ว นั่นก็คือการเล่นเกม ตามสเปคนั้นได้ใช้ Snapdragon™ 865 ซึ่งเป็นระบบประมวลผล 5G จับคู่กับชิปประมวลผล Kryo™ 585 octa-core และ GPU Adreno™ 650 ซึ่งได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 25% มีหน่วยความจำความเร็วแบบอัลตร้า LPDDR51 RAM และพื้นที่จัดเก็บ UFS 3.1 ซึ่งทำให้ POCO F2 Pro สามารถอ่านเขียนได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังใช้ เทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool Technology 2.0 อีกด้วย
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/480-696x392.jpg)
แต่ใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรล่ะ? เราได้ทดสอบเอาเกมที่กินสเปคโหดๆ มาลองกัน ไม่ว่าจะเป็น Honkai Impact 3, Destiny Child, Blue Oath, Dragon Raja, Blade&Soul Revolution และ PUBG Mobile พบว่า ทุกเกมที่ว่ามา ปรับสุดหมดทุกอย่าง สามารถรันเกมได้แบบไหลลื่นมากและไม่มีเฟรมเรตตกเลย แถมยังสามารถพักเกม ไปเปิดแอพอื่น เกมก็ยังอยู่เหมือนเดิม ซึ่งต่างจากรุ่นแรกที่หากกดพักเกมไปแปบเดียว เกมก็ต้องเริ่มใหม่แล้ว
แต่ทั้งนี้ยกเว้นเกมเดียวก็คือ Destiny Child ที่เกมจะมีอาการกระตุกตอนช่วงที่มีการใช้เอฟเฟคหนักๆ แต่ในแง่ความไวในการตอบสนองนั้นกลับไม่มีปัญหา และก็เจอปัญหาเกมเดียวคือ กดพักหน้าจอไปไม่นาน เกมก็ต้องเริ่มใหม่ อาจเป็นที่ซอฟแวร์ก็ได้ ต้องรอการอัพเดตต่อไป
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/481-696x392.jpg)
และด้วยการที่หน้าจอใหญ่ขึ้น การทัชที่ไม่หลอน อาจจะมีปัญหาเรื่องการตอบสนองไม่ไวเท่ากับรุ่นเรือธง แต่เกมหลายเกมกลับเล่นยิ่งกว่าเรือธงบางรุ่น ทำให้ POCO F2 Pro เหมาะสมในการเอามาเล่นเกมแทบทุกเกม จะเอามาฟาร์มเกมทิ้งไว้ก็ได้ จะเอามาเล่นเกมภาพหนักๆ ก็คุ้มแน่นอน
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/482-696x392.jpg)
แต่แน่นอนว่า มีข้อเสียมาบ้าง อย่างเช่น แม้ระบบระบายความร้อนจะดีกว่ารุ่นแรก (และใช้งานเทียบกันก็ดีกว่าจริงๆ ขนาดเล่นที่ร้อนแค่ไหนก็ยังเล่นได้ลื่น) แต่ข้อเสียที่เจอคือมือถือจะร้อนจี๋มาก และร้อนจนราวกับเป็นเตารีด อันนี้ค่อนข้างอันตราย จึงยังไม่เหมาะเอาไปเล่นในที่ร้อน รวมไปถึงลำโพงที่แม้ว่าจะมีมิติมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ใช่ลำโพงคู่ การกังวานของเสียงยังสู้เรือธงที่ใช้ระบบเสียง Dolby ตรงๆ ไม่ได้ เป็นอีกหนึ่งข้อเสียที่น่าเสียดาย ถึงจะดีกว่ารุ่นแรก แต่ก็ยังไม่สุดด้านเสียงอยู่ดี
17,999 บาท คุ้มไหมกับราคานี้?
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/07/483-696x392.jpg)
ในแง่ประสิทธิภาพของการเล่นเกมคุ้มแน่นอน เพราะสามารถเล่นเกมได้ลื่นกว่ามือถือเรือธงบางรุ่นราคาสามหมื่นกว่าเสียด้วยซํ้า แบตก็ถือว่าถึกกว่ามาก แถมยังได้ประสบการณ์จอทั้งใหญ่และกว้างกว่าสุดๆ เอาแค่นี้ในเรทราคานี้ถือว่าคุ้มแล้ว เพราะหาไม่ได้ง่ายๆ กับเรทมือถือราคาไม่ถึงสองหมื่นแต่ประสิทธิภาพเทียบชั้นได้กับมือถือรุ่นราคาสามหมื่น
แต่ข้อเสียที่ยังไม่มีในรุ่นนี้ที่ต้องคิดนั่นก็คือ ยังไม่ใช่มือถือความสุดในทุกด้าน มือถือไม่มีความสามารถในการกันน้ำ หน้าจอก็ไม่รองรับแรงกระแทกแบบ Gorilla®️ Glass 6 (เพราะใช้รุ่น 5) ไม่รองรับการซาร์จแบบไร้สาย และระบบเสียงก็ยังสู้รุ่นที่ใช้ Dolby ไม่ได้ ส่วนนอกนั้นคนเขียนหาข้อติอื่นไม่เจอ เพราะในแง่ความแม่นยำของการจับตำแหน่ง การรับสัญญาณ WIFI ก็ออกมาดีปกติ ไม่ได้แตกต่างอะไรจากรุ่นอื่นเท่าไหร่
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/06/image-21-696x397.png)
ทั้งนี้ ในเรทราคานี้จะคุ้มค่ากับ 18,000 บาท ทอน 1 บาทจริงๆ รึเปล่านั้น เพื่อความชัวร์ คนเขียนอยากให้คนอ่านได้ไปสัมผัสกับมือถือด้วยมือของตนเอง ลองโหลดเกมแรงๆ มาเล่นซักเกมที่ร้านค้า (ไม่เอาพวก Fee File หรือ RV อะไรนั่นน่ะ เพราะสองเกมนั้นเป็นเกมสเปคกลาง) และหากตั้งเป้าจะเอามาเล่นเกมแบบกินสเปคแรงๆ ยังไงก็คุ้มแน่นอนครับ
![](https://g-genius.com/wp-content/uploads/2020/06/image-22-331x452.png)
POCO F2 PRO วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย โดยมีสองรุ่นสองราคา ได้แก่
รุ่น 6GB + 128GB ขายราคา 17,999 บาท
รุ่น 6GB + 256GB ขายราคา 20,999 บาท
โดยได้วางจำหน่าย ณ ร้าน COM7, TG FONE, JAYMART, Mi Stores และร้านค้าที่ร่วมรายการ