Solo Leveling: ARISE ได้ประกาศคอบแลบกับอนิเมะเรื่องดัง “คำอธิษฐานในวันที่จากลา FRIEREN” ซึ่งมาพร้อมกับกิจกรรมมากมาย และเล่นสนุกได้แล้ววันนี้
แน่นอนว่า เมื่อตัวละครจากสองจักรวาลโคจรมาพบกัน คำถามสุดคลาสสิกที่แฟน ๆ อดคิดไม่ได้ก็คือ… “ถ้าสู้กัน ใครจะชนะ?” วันนี้ เราจะมาวิเคราะห์สเกลพลังกันสนุก ๆ (ย้ำว่าสนุก ๆ นะครับ!) โดยอิงจากไทม์ไลน์ของซองจินอูในช่วงจบเหตุการณ์เกาะเชจู (ได้เบรูมาเป็นเงา และเป็นฮันเตอร์ที่เก่งที่สุดในเกาหลีใต้) เทียบกับทีมผู้กล้าชุดใหม่ของฟรีเรนครับ
(1) ซองจินอู (หลังเกาะเชจู) VS ฟรีเรน (จอมเวท)
- ซองจินอู: ในช่วงเวลานี้ จินอูมีกองทัพเงาที่แข็งแกร่ง (รวมถึงเบรู) สกิลติดตัวระดับสูง และ “อำนาจของผู้ปกครอง” (Ruler’s Authority) เขาสามารถต่อกรกับฮันเตอร์ระดับชาติได้แล้ว
- ฟรีเรน: จอมเวทเอลฟ์ผู้ผ่านการต่อสู้กับราชาปีศาจ แม้ในอนิเมะ (ซีซัน 1) เราจะเห็นว่าเธอ “กดพลังเวท” เอาไว้มหาศาลจนกระทั่งออร่า (Aura) เท่านั้นที่มองเห็นพลังที่แท้จริงได้ แต่ลำพังเวทมนตร์โจมตีธรรมดา (โซลทราค) ที่เธอใช้ ก็ทรงพลังและรวดเร็วจนน่าสะพรึงกลัว ประสบการณ์หลายพันปีทำให้เธอเป็นนักวิเคราะห์การต่อสู้ที่เฉียบแหลม
แม้จินอูจะมีกองทัพและพละกำลังมหาศาล แต่ฟรีเรนมีความได้เปรียบด้าน “ประสบการณ์” และ “การวิเคราะห์” ที่เหนือกว่าอย่างเทียบไม่ติด พลังเวทที่แท้จริงของเธอยังคงเป็นปริศนา แต่แค่พลังที่เปิดเผยก็เพียงพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ส่วนใหญ่ได้แล้ว หากต้องสู้กันจริง ๆ ฟรีเรนน่าจะสามารถวิเคราะห์จุดอ่อนของจินอูและกองทัพเงา และใช้เวทมนตร์ที่หลากหลาย (ทั้งป้องกัน, โจมตี, และควบคุม) เพื่อชิงความได้เปรียบและคว้าชัยชนะไปได้ในที่สุด
(2) ซองจินอู (หลังเกาะเชจู) VS เฟรุน (ศิษย์จอมเวท)
- เฟรุน: ศิษย์ของฟรีเรน และเป็นอัจฉริยะด้านเวทมนตร์ มีพลังเวทมหาศาล (สำหรับมนุษย์) และเชี่ยวชาญการใช้โซลทราคขนาดใหญ่ จุดเด่นคือความเร็วในการยิงเวทที่เหนือกว่าจอมเวททั่วไป
- ซองจินอู: อย่างที่กล่าวไป จินอูมีทั้งความเร็ว พลัง และกองทัพ
คู่นี้สูสีมาก! เฟรุนมีพลังทำลายล้างระยะไกลที่น่ากลัว แต่จินอูมีความหลากหลายในการต่อสู้มากกว่า ทั้งการต่อสู้ระยะประชิด, สกิลลอบสังหาร, และการเรียกใช้กองทัพเงาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจหรือป้องกัน หากเฟรุนไม่สามารถจบการต่อสู้ได้ด้วยการโจมตีเพียงไม่กี่ครั้ง จินอูก็มีโอกาสสูงที่จะเข้าถึงตัวและใช้ความได้เปรียบทางกายภาพและจำนวนเข้าตัดสินผลแพ้ชนะ
(3) สตาร์ค VS ฮันเตอร์สายกายภาพ Rank S คนอื่น ๆ
- สตาร์ค: นักรบสายแทงก์ธาตุไฟที่ใช้ขวานยักษ์ แม้จะขี้ขลาด แต่เมื่อเอาจริง เขามีพละกำลังทางกายภาพที่มหาศาลจนสามารถทำลายภูเขาได้ (ตามที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง)
- ฮันเตอร์ Rank S (กายภาพ): เช่น แบคยุนโฮ (โดยเฉพาะตอนแปลงร่าง) หรือ ชาแฮอิน (สายประชิดความเร็วสูง)
แม้สตาร์คจะไม่มีพลังเวท แต่พลังป้องกันและความทนทานของเขานั้นเหนือมนุษย์ เมื่อเทียบกับฮันเตอร์สายกายภาพใน Solo Leveling พลังโจมตีด้วยขวานของเขา น่าจะเทียบเคียงหรือเหนือกว่าฮันเตอร์สายพลังคนอื่น ๆ หากต้องปะทะกับสายความเร็วอย่างชาแฮอิน เขาอาจจะเสียเปรียบ แต่ถ้าเป็นการปะทะพลังกับสายแทงก์หรือสายพลังคนอื่น ๆ สตาร์คไม่เป็นสองรองใครแน่นอน
(4) ซองจินอู VS ออร่าแห่งกิโยติน
- ออร่าแห่งกิโยติน: เธอจะมี “อาเทรีเม” (Aterime) – ตราชั่งแห่งโอวาท ซึ่งเป็นเวทมนตร์ที่อันตรายที่สุดของออร่า มันคือการ “ชั่งน้ำหนักพลังเวท (มานา)” ออร่าและคู่ต่อสู้จะวางวิญญาณของตนลงบนตราชั่ง ใครก็ตามที่มีพลังเวท “น้อยกว่า” จะต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง กลายเป็นหุ่นเชิดที่ต้องทำตามคำสั่ง (ซึ่งออร่ามักจะสั่งให้ “ตัดคอตัวเอง”)
- ซองจินอู : เฉกเช่นที่กล่าวไป ในฐานะ “ผู้เล่น” และร่างทรงของ “ราชาเงา” ปริมาณมานาของซองจินอูนั้นมากมายมหาศาลเกินกว่าที่ฮันเตอร์ระดับ S ทั่วไปจะจินตนาการได้ และมันยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังมีกองทัพเงาขนาดใหญ่ และมีแม่ทัพที่แข็งแกร่งอย่าง อิกริส, ไอรอน และที่สำคัญคือ “เบรู” (ราชามด) ซึ่งมีความแข็งแกร่งระดับฮันเตอร์ระดับชาติ นอกจากนี้ ยังมีทั้งความเร็ว พละกำลัง และทักษะการต่อสู้ระยะประชิดที่เหนือมนุษย์
คู่นี้ ผลลัพธ์ตัดสินกันได้ง่ายมาก และผู้ชนะก็คือ ซองจินอู อย่างขาดลอย
ในเนื้อเรื่อง Frieren ออร่าพ่ายแพ้ให้กับฟรีเรน เพราะฟรีเรนได้ซ่อนพลังเวทที่แท้จริงซึ่งสั่งสมมากว่าพันปีเอาไว้ เมื่อฟรีเรนปลดปล่อยพลังเวททั้งหมดออกมา มันจึง “หนักกว่า” พลังเวทของออร่าอย่างเทียบไม่ติด ทำให้ออร่าต้องตกเป็นทาสของฟรีเรนเสียเอง
สำหรับซองจินอู สถานการณ์ก็ไม่ต่างกัน ปริมาณมานาของเขาในฐานะ “ราชาเงา” นั้นอยู่ในระดับที่ “ไร้ขีดจำกัด” หรือ “ลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง” เมื่อเทียบกับมาตรฐานของโลก Solo Leveling แม้พลังเวทของออร่าจะมากมายในโลกของเธอ แต่ก็ไม่สามารถเทียบได้กับแหล่งพลังงานระดับ “จักรพรรดิ” หรือ “ราชา” แบบซองจินอูได้เลย ดังนั้น หากออร่าท้าซองจินอูชั่งพลังเวท… ตราชั่งของออร่าจะพ่ายแพ้ทันที และเธอจะกลายเป็นหุ่นเชิดของซองจินอูแทน เหตุผลคือมันจะจบลงทันทีเมื่อออร่าใช้ “ตราชั่งแห่งโอวาท”
แล้วถ้าออร่าไม่ใช่ตราชั่งล่ะ?
ถ้าหากไม่มีการใช้ตราชั่ง ออร่าจะยังมี “กองทัพผีดิบไร้หัว” เป็นอาวุธอยู่ แต่ทว่าสำหรับกองทัพเงาของซองจินอูแล้ว เพียงแค่ “เบรู” ตัวเดียวก็น่าจะสามารถทำลายกองทัพทั้งหมดของออร่าได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องพูดถึงการที่ซองจินอูจะใช้ทักษะ “ล่องหน” แล้วเข้าไปโจมตีระยะประชิด ซึ่งออร่าที่เป็นสายเวทมนตร์ไม่มีทางป้องกันความเร็วระดับนั้นได้ทันแน่นอน
สรุปก็คือ ไม่ว่าจะสู้ด้วยวิธีไหน ซองจินอูก็เหนือกว่าออร่าแห่งกิโยตินในทุกมิติ หรือก็คือ ออร่าจะต้องแพ้อยู่ดี
[นี่เป็นเพียงการวิเคราะห์สนุก ๆ เท่านั้น!]
ทว่า เราต้องขอย้ำกันอีกครั้งว่า นี่เป็นการวิเคราะห์โดยอิงข้อมูลจากคนละจักรวาลเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ในเนื้อเรื่องคอลแลปส์ของเกม Solo Leveling: ARISE พวกเขาทั้งหมด (ซองจินอู, ฟรีเรน, เฟรุน, และสตาร์ค) ได้ “ร่วมมือกัน” ในฐานะพันธมิตร ไม่ได้เป็นศัตรูกันแต่อย่างใด ด้วยโลก (Worldview) และผู้แต่งที่แตกต่างกัน การเปรียบเทียบจึงไม่สามารถวัดผลได้อย่างแท้จริงครับ
[สรุปไฮไลต์กิจกรรมคอลแลบ Solo Leveling: ARISE x FRIEREN]
สำหรับอัปเดตคอลแลบครั้งนี้ มีเนื้อหาใหม่ ๆ ที่น่าสนใจดังนี้
(1) ตัวละครฮันเตอร์ใหม่
- ฟรีเรน เป็นจอมเวทธาตุน้ำที่ใช้คาถาเวทมนตร์ในการควบคุมสนามรบ สกิลอัลติเมตของเธออย่าง ‘เวทมนตร์โจมตีธรรมดา (โซลทราค) – ไม้ตาย’ จะปล่อยพลังเวทเพื่อปลดปล่อยพลังระเบิดโซลทราคอันยิ่งใหญ่
- เฟรุน เป็นจอมเวทธาตุไฟ รวบรวมพลังเวทสูงสุดเพื่อปลดปล่อยพลังระเบิดโซลทราคอันยิ่งใหญ่ ทำลายล้างศัตรูด้านหน้าเมื่อใช้สกิลอัลติเมตของเธออย่าง ‘เวทมนตร์สังหารเผ่าปีศาจ (โซลทราค) – ขนาดใหญ่’
- สตาร์ค เป็นแทงก์ธาตุไฟ ผู้ที่ต่อสู้ด้วยขวานอันใหญ่โต สกิลอัลติเมตของเขาอย่าง ‘สายฟ้าพิฆาต : ดับสูญ’ ทำให้เขาสามารถลงมาจากอากาศพร้อมฟาดขวานลงพื้นอย่างทรงพลัง
(2) อาวุธใหม่
อาวุธเฉพาะตัวของทั้ง 3 ตัวละคร (ไม้เท้าของฟรีเรน, ไม้เท้าของเฟรุน, ขวานของสตาร์ค) และ อาวุธใหม่ SSR ธาตุแสงสำหรับซองจินอู “ดาบผู้กล้า”
(3) กิจกรรมเช็กชื่อ
“กิจกรรมของขวัญเช็กชื่อพวกพ้องนักผจญภัย!” เพียงล็อกอินเข้าเกมก็รับรางวัลพิเศษ เช่น “ตั๋วเลือกฮันเตอร์ SSR พวกพ้องนักผจญภัย!” (เลือกได้เลยว่าจะเอา ฟรีเรน, เฟรุน หรือ สตาร์ค โดยไม่แนะนำให้เลือกสตาร์ค เพราะสตาร์คจะแจกฟรีในอีเวนต์)
(4) ดันเจี้ยนกิจกรรม
ท้าทายดันเจี้ยนคอลแลบพิเศษ เพื่อต่อสู้กับบอส “ออร่าแห่งกิโยติน”
(5) อัปเดตอื่น ๆ
- บอสใหม่ “แม่ทัพร่างเหล็ก บัลแทร์” ในการรุกรานแห่งแสงสว่าง
- คอนเทนต์ใหม่ “หอสมุดต้องห้ามของผู้เฝ้าดู” (เริ่ม 6 พฤศจิกายน)
[วิเคราะห์ความคุ้มค่า: 3 ตัวละครคอลแลบ น่ากดกาชาแค่ไหน?]
มาถึงส่วนสำคัญสำหรับชาวเกมเมอร์ ตัวละครคอลแลบ (ที่เป็น Limited) คุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่
(1) สตาร์ค (SSR Fire Tank) – (ตัวละครฟรีจากอีเวนต์)
ความคุ้มค่า: 10/10 (ต้องมี!)
แม้ในเกมจะขึ้นชื่อว่าเป็นแทงก์ แต่สตาร์คคือตัวละครสายสกิล “ตัวทำลายเกราะ” ที่ยอดเยี่ยม แถมยังมีดีบัฟ “ดาวน์” ใส่ศัตรูหลังจากใช้สกิลอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นตัวละครที่เล่นได้ง่าย สำคัญคือ “แจกฟรี” จากอีเวนต์ แถมรับชิ้นส่วนตัวละครเพิ่มได้อีกด้วย เป็นตัวละคร “แจกฟรี” ที่สามารถ “ใช้ได้จริง”
(2) เฟรุน (SSR Fire Mage) – (ตัวละครกาชา)
ความคุ้มค่า: 9/10 (สำหรับสาย DPS)
เฟรุนกำลังถูกจับตามองว่าอาจเป็น DPS ธาตุไฟระดับ Top-Tier คนใหม่ เธอมีบัฟส่วนตัวที่แรงมาก (ทั้ง Crit Rate, Crit Damage, และ Fire Damage) และมีความสามารถสำคัญคือ “บังคับให้การโจมตีทั้งหมดเป็นธาตุไฟ” โดยไม่สนธาตุของศัตรู ทำให้เธอสามารถสร้างความเสียหายได้สูงสุดในทุกสถานการณ์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ขาดตัวแบกดาเมจธาตุไฟ
(3) ฟรีเรน (SSR Water Mage) – (ตัวละครกาชา)
ความคุ้มค่า: 8.5/10 (สำหรับสาย Support)
ฟรีเรนมาในฐานะตัวละครสายสนับสนุนธาตุน้ำ ที่มีความสามารถโดดเด่นในการทำให้เกิด Crit Damage และยังมีสกิลป้องกันให้แก่ทีม คล้ายกับซัปพอร์ตยอดนิยมอย่าง “อีโบรา” (Lee Bora) ซึ่งเป็นบัฟที่ดีมากในเกมนี้ หากคุณยังไม่มีตัวซัปพอร์ตด้านคริติคอลที่เก่ง ๆ หรือต้องการตัวละครธาตุน้ำมาเสริมทีม ฟรีเรนคือคำตอบที่ยอดเยี่ยม
ตัวละครคอลแลบรอบนี้ดู “เก่ง” และ “ใช้งานได้จริง” ทั้งสามคน ไม่ใช่แค่ตัวละครสำหรับนักสะสมเท่านั้น โดยเฉพาะ สตาร์ค (ตัวฟรี) ที่เก่งเกินคาด ส่วน เฟรุน (กาชา) ก็เป็น DPS ที่โหดมาก และ ฟรีเรน (กาชา) ก็เป็นซัปพอร์ตชั้นดี
เกม Solo Leveling: ARISE เปิดให้ดาวน์โหลดเล่นฟรีแล้ววันนี้ทั้งบน PC และมือถือ (iOS/Android) ส่วนอนิเมะ “คำอธิษฐานในวันที่จากลา FRIEREN” ก็สามารถรับชมได้แล้ววันนี้บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชั้นนำ!
