ติดตามเรา
บทความ

Firefly ใน Honkai: Star Rail เป็นใคร? ทำไมถึงเป็นที่พูดถึงอย่างมาก?

หลังจากที่เกม Honkai: Star Rail ได้มีการประกาศเตรียมอัปเดตเวอร์ชัน 2.3 ที่เตรียมจะอัปเดตในวันที่ 19 มิถุนายน กระแสการพูดถึง Firefly นั้นมีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเมื่อเธอกำลังจะได้มาเป็นตัวละครที่สามารถเล่นได้จริง โดยเธอเป็นใคร เรามาทำความรู้จักกับเธอดีกว่า

Firefly นั้นปรากฎตัวมาครั้งแรกในบทแรกของดาว Penacony เธอเป็นเด็กสาวที่มีผมยาวสีบลอนด์เงินที่มีสีเขียวอมฟ้าที่ปลายผมยาวถึงเอว ผิวขาว เธอปรากฎตัวมาครั้งแรกในฐานะคนที่ลับลอกเข้ามาใน Penacony และได้พบกับเราในฐานะผู้บุกเบิกที่มาเช็กหาข้อมูลของผู้บุกเบิกรุ่นเก่าและมรดกของช่างนาฬิกาบนดาว Penacony โดยเธอได้เปิดเผยกับเราว่าเธอเป็น “โรคสูญเสียเอนโทรปี” ซึ่งทำให้ร่างกายช้าลงเรื่อยๆ ตามกาลเวลา และทำให้ Firefly ต้องหลบหนีเข้าไปใน Penacony ดินแดนแห่งความฝัน เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับร่างกายของเธอ จนต่อมาก็ได้เปิดเผยว่าตัวเธอคือเด็กสาวที่อยู่ในอาวุธจักรกลที่ชื่อ SAM

ตามเรื่องราวนั้น Firefly มาจากดาว Glamoth ที่ล่มสลายไปนานแล้วหลังจากการถูก Swarm รุกรารนเข้ามา เธอได้เกิดมาในฐานะอาวุธที่สวมเกราะจักรกลที่ชื่อ SAM และต่อต้านการบุกรุกของแมลง Swarm อย่างกล้าหาญ แต่โชคร้าย ด้วยผลข้างเคียงจากการดัดแปลงพันธุกรรม เธอจึงต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดที่เรียกว่า “โรคสูญเสียเอนโทรปี” และเพื่อค้นหาความหมายของชีวิตและต่อต้านโชคะตาที่โดนควบคุมอย่าง “สคริปต์” ที่เธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ Firefly จึงเลือกที่จะเข้าร่วมกับนักล่า Stellaron เพื่อไล่ตามเป้าหมายและภารกิจของตัวเองต่อไป

ความสามารถการต่อสู้

ในฐานะตัวละครประเภทไฟ Firefly มีพลังที่ทำให้ผู้คนต่างยอมรับ หลังจากที่ Firefly ใช้เทคนิคแล้ว จะอัญเชิญ SAM ที่แข็งแกร่งออกมา เพื่อกระโดดขึ้นไปในอากาศ และเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ โดยในช่วงระยะเวลานั้นจะสามารถพุ่งลงมาโจมตีศัตรูในระยะด้วยตัวเองได้ หลังจากเข้าสู่การต่อสู้ จะทำการโจมตีศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในขอบเขตของเทคนิค และเพิ่มจุดอ่อนไฟให้กับศัตรู ในระหว่างการต่อสู้ “Sam” จะแสดงรูปลักษณ์ที่ต่างกันไปสองรูปแบบ ในร่างเริ่มต้น จะใช้ HP เพื่อปล่อยสกิลต่อสู้ ขณะเดียวกันก็จะฟื้นฟูพลังงานท่าไม้ตายในอัตราส่วนที่คงที่ด้วย เมื่อใช้ท่าไม้ตาย “Sam” ก็จะเข้าสู่ร่างต่อสู้ที่สอง ซึ่งก็คือสถานะ “Complete Combustion” ที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่า

เมื่ออยู่ภายใต้สถานะ “Complete Combustion” ความรุนแรงของการโจมตีปกติและสกิลต่อสู้ของ “Sam” จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะเดียวกันความเร็วเองก็จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยเหมือนกัน นอกจากนี้แล้ว เมื่ออยู่ภายใต้สถานะนี้ ประสิทธิภาพการทำลายจุดอ่อนก็จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย เมื่อถูก “Sam” โจมตี ศัตรูจะได้รับ DMG ทำลายล้างเพิ่มขึ้น จนกว่าเวลานับถอยหลังของสถานะ “Complete Combustion” จะสิ้นสุดลง และสิ่งที่ควรค่าต่อการพูดถึงก็คือสถานะ “Complete Combustion” ไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นพลังที่แข็งแกร่งของ “Sam” เท่านั้น ยังทำให้ผู้เล่นได้เห็นวิวจากภายในชุดเกราะของ Firefly ด้วย และแววตาที่แน่วแน่ของ Firefly ก็เป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณอันเร่าร้อนของเธอ

กระแสความน่าสนใจของเธอ

Image from Honkai: Star Rail’s Summer Game Fest 2024 trailer, Edit by @Mello50_

หลังจากที่เธอได้ปรากฎตัวออกมาในเนื้อเรื่องของ Penacony เธอได้รับการพูดถึงจากคนเล่นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ของเธอที่โดดเด่นและสวยงาม รวมไปถึงเครื่องแต่งกายที่มีรายละเอียดซับซ้อน ทุกองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้เธอดูเป็นเอกลักษณ์และน่าจดจำ

ในเนื้อเรื่องเองนั้นเธอมีบทบาทที่สำคัญมาก โดยเฉพาะเรื่องที่เธอเป็นบุคคลที่อยู่ในชุดเกราะของ SAM การเปิดเผยนี้สร้างความประหลาดใจและความตื่นเต้นให้กับผู้เล่น การที่เธอป่วยเป็น “โรคสูญเสียเอนโทรปี” ที่เธอประสบทำให้เธอต้องหาวิธีการเอาชีวิตรอด ซึ่งนำไปสู่การเข้ามาอยู่ในชุดเกราะของ SAM เรื่องราวนี้มีความลึกซึ้งและทำให้ผู้เล่นเกิดความสนใจและอยากติดตามว่าเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป รวมไปถึงความสามารถของเธอที่เป็นเอกลักษณ์

อีกทั้ง Firefly นั้นเป็นคนที่ใจดี และเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอใส่ใจคนรอบข้าง การที่เธอแสดงความห่วงใยและความใจดีต่อผู้อื่นยังทำให้เธอเป็นที่รักของผู้เล่นอย่างมากอีกด้วย ซึ่งนั่นทำให้ Firefly ได้รับความสนใจและถูกพูดถึงมากมายในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Twitter, Facebook, TikTok และ Hoyolab นอกจากนี้ยังมีภาพแฟนอาร์ตของเธอจำนวนมากใน Pixiv ทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นอีกด้วย

ทั้งนี้สำหรับ Firefly จะเป็นตัวละครสาย DPS โจมตีธาตุไฟระดับ 5 ดาว และพร้อมเป็นเจ้าของให้เล่นใน Honkai: Star Rail เวอร์ชัน 2.3 ที่จะอัปเดตให้เล่นในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ ตัวเกมเปิดให้เล่นฟรีแล้ววันนี้บนมือถือ, PC และ PlayStation 5

Leave a comment