Wonder Festival เป็นที่รู้จักในนามของคนไทยมาในตอนปี 2023 แต่สำหรับบทความนี้ ทางเราได้ไปเยือนยังสถานที่ออริจินัลของงานนั่นคือที่ประเทศญี่ปุ่น
| ไฮไลท์บทความ |
| . งาน Wonder Festival ณ ประเทศญี่ปุ่นจัดขึ้นที่ Makuhari Messe จังหวัดชิบะ มีประวัติยาวนาน 40 ปี จัดโดยบริษัท Kaiyodo ผู้ผลิตฟิกเกอร์ชื่อดัง . งานแบ่งออกเป็น 8 ฮอลล์ ใหญ่โตเทียบเท่า Tokyo Game Show โดยฮอลล์ 7 และ 8 เป็นโซนของบริษัทผู้ผลิตฟิกเกอร์ชั้นนำ . ไฮไลท์ของงานคือการเปิดตัวสินค้าใหม่ การจำหน่ายสินค้าพิเศษเฉพาะงาน และการพบปะระหว่างผู้ผลิตกับผู้ซื้อ . งานนี้มีการจำหน่ายฟิกเกอร์ลิขสิทธิ์แบบ “One-Day License” และมีการตรวจสอบอายุสำหรับสินค้าผู้ใหญ่ . Wonder Festival สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมโอตาคุของญี่ปุ่นและความสำคัญของอุตสาหกรรมของสะสมที่มีมูลค่ามหาศาล |
ตัวงาน Wonder Festival นั้นเป็นงานที่มีมาตั้งแต่ปี 1984 ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์โตเกียว จึงเป็นงานที่มีประวัติมายาวนานถึง 40 ปี และงานจัดโดย บริษัทไคโยโดะ ผู้ผลิตฟิกเกอร์และโมเดลชื่อดัง โดยมีเป้าหมายคือ เป็นสถานที่สำหรับนักปั้นมืออาชีพและมือสมัครเล่นได้นำผลงานของตนเองมาจัดแสดงและจำหน่าย โดยเริ่มแรกเป็นงานเล็ก ๆ ที่จัดขึ้นในห้องเช่า แต่ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นทำให้งานขยายขนาดขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นงานใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมงานหลายหมื่นคนในปัจจุบัน และต่อยอดมาจัดในต่างประเทศ อย่างเช่นในประเทศไทยที่จัดมาแล้วถึง 2 ครั้ง นั่นก็คือในปี 2023 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และในปี 2024 จัดที่พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน โดยสำหรับในญี่ปุ่นนั้นจะมีการจัด 2 ครั้ง คือฤดูหนาวและฤดูร้อน โดยสำหรับงานที่เราไปเยือนนั้นจะเป็นช่วงการจัดในรอบฤดูหนาว และจัดที่ Makuhari Messe จังหวัดชิบะ สถานที่เดียวกันกับที่จัดงาน Tokyo Game Show นั่นเอง
ในการเดินทางครั้่งนี้่ทางเราได้เข้าร่วมงานในฐานะของสื่อมวลชน และเป้าหมายของเราคือการสำรวจเน้นไปที่โซนของฮอล 7 และฮอล 8 ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับบริษัทผู้ผลิตฟิกเกอร์และโมเดลชั้นนำ ซึ่งก็ได้มีมาออกบูธกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะการนำไลน์สินค้าใหม่ที่จะมีการวางจำหน่ายในปีนี้และในอนาคตเอามาให้โชว์ให้เห็นก่อนใคร รวมไปถึงมีการจำหน่ายตัวพิเศษที่จะขายทั้งเฉพาะงานนี้ หรือขายล่วงหน้าก่อนใคร ซึ่งเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจจำนวนมาก เรียกได้ว่าทันทีที่งานเปิด จะต้องมีคนพุ่งเข้ามาเพื่อต่อแถวเพื่อเตรียมตัวซื้อสินค้าที่ตนเองชื่นชอบกันในทันที
ความแตกต่างของงาน Wonder Festival ที่ญี่ปุ่นกับของไทยนั้นค่อนข้างมาก ในขณะที่ของไทยมีการจัดอยู่ที่ 2 ฮอล แต่ที่ญี่ปุ่นนั้นกลับมีจำนวนฮอลมากถึง 8 ฮอล ซึ่งมากเทียบเท่ากับจำนวนฮอลหลักของงานเกมอย่าง Tokyo Game Show (ซึ่งงานเกมนั้นจะมีฮอลแยกออกไปอีกตึกหนึ่งด้วยซ้ำ) ซึ่งบ่งบอกถึงความนิยมของสายสะสมอย่างฟิกเกอร์ ของเล่นทำมือ ของแฮนเมด ที่ยังคงได้รับการสนับสนุนและการตอบรับเป็นอย่างดี รวมไปถึงเพราะมีบูธต่าง ๆ มากมายทั้งผู้ผลิตชั้นนำไปจนถึงมือสมัครเล่นที่ได้ทำขึ้นมาทั้งเป็นงานอดิเรกและวางจำหน่ายเอง ต่างก็สามารถมีพื้นที่ของตัวเองในการนำแสดงโชว์ผลงานและวางขายอีกด้วย ซึ่งสำหรับญี่ปุ่นนั้นภายในงานถือว่า ทางผู้ผลิตจะอนุญาตให้สามารถขายฟิกเกอร์ของตัวละครที่มีลิขสิทธิ์ได้เฉพาะในวันงาน ซึ่งเรียกว่า “One-Day License” อีกด้วย
ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมสิ่งบันเทิง หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า โอตาคุ ดั่งที่เราจะเห็นได้จากงานอนิเมะ มังงะ ภาพยนตร์ มูฟวี่ งานแสดง ทั้งทุกเพศทุกวัยและทั้งจากแบบสำหรับผู้ใหญ่ เป็นประเทศที่ไม่เคยปิดกั้่นด้านวัฒนธรรมและออกแบบเปิดโอกาสให้แต่ละคนมีพื้นที่ในการแสดงความคิดสร้างสรรค์จำนวนมาก และทั้งหมดต่อยอดผลักดันสู่อุตสาหกรรมที่ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยในปี 2022 ตลาดของสะสมและของเล่นทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 426,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2032 ซึ่งญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ ด้วยความนิยมในอนิเมะ มังงะ และวัฒนธรรมป๊อปที่มีอิทธิพลต่อการเติบโตของตลาดฟิกเกอร์และของสะสม
จุดที่น่าสนใจสำหรับงานนี้เพราะเป็นงานที่มีขนาดใหญ่มากแต่กลับมีเวลาเดินชมเพียงแค่วันเดียว ดังนั้นคนที่มาร่วมงานจะต้องศึกษาผังงานให้ดี ๆ และรีบไปยังจุดที่ตนเองต้องการจะไป ดังนั้นในส่วนของฮอล 7 และฮอล 8 ที่เป็นโซนผู้ผลิตชั้นนำจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ แต่การออกแบบการจัดงานที่ดีทำให้ผู้เข้าร่วมชมไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอก เพราะสถานที่จัดงานจะมีห้องน้่ำขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตู้ล็อกเกอร์สำหรับการจัดเก็บของ ไปจนถึงการจำหน่ายอาหารในงานด้วยราคาที่ก็ไม่ได้ต่างจากการซื้อข้างนอก ทำให้คนร่วมงานสามารถเดินชมและทานอาหารได้ในงานอย่างเต็มที่
นอกจากการนำเสนอไลน์อัปสินค้าใหม่ ๆ แล้ว ยังได้มีการพบปะกันระหว่างผู้ผลิต บริษัทต่าง ๆ ที่เป็นโอกาสทองโดยเฉพาะกับมือสมัครเล่นที่ได้นำผลงานของตัวเองเอามาออกงาน และยังมีคนแต่งคอสเพลย์มาร่วมงานกันอย่างคึกคักอีกด้วย แถมยังรวมไปถึงการนำเสนอผลงานสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งมีการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนหรือพาสสปอร์ตเพื่อยืนยันอายุของคนที่จะเข้าไปร่วมงาน เรียกได้ว่าสำหรับงานรวมพลคนที่รักของเล่น ของสะสมต่าง ๆ แล้ว นี่เป็นการจัดงานที่ครบถ้วนจริง ๆ
น่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลขของผู้เข้าร่วมงานออกมาประกาศว่างานในครั้งนี้มีคนเข้าร่วมงานเท่าไหร่ แต่ดูจากปริมาณของคนที่มาร่วมงาน แม้จะไม่เทียบเท่ากับงาน Tokyo Game Show แต่ก็ถือว่ามีปริมาณมหาศาลมาก ๆ จนทางคนจัดงานต้องออกมาขอโทษที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการปล่อยคนเข้าร่วมงาน (ซึ่งเป็นอะไรที่สมกับเป็นญี่ปุ่นดี) แต่ทั้งนี้ ในการเข้าร่วมงานที่ถือว่าเป็นออริจินัลของงานคนรักของเล่น ของสะสมในครั้งนี้ของเล่น เรียกได้ว่าเปิดประสบการณ์ใหม่ ไม่เพียงแค่ทำให้เราได้มองเห็นอุตสาหกรรมของวงการนี้กันมากขึ้นอย่างเดียว แต่ยังทำให้เรามองเห็นมูลค่าเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่สมกับเป็นประเทศญี่ปุ่นที่มากขึ้นอีกด้วย
บทความ รูปถ่าย เขียนโดย ป่านคุงบทความ รูปถ่าย เขียนโดย ป่านคุง
สำหรับรูปถ่ายฟิกเกอร์จากผู้ผลิตต่าง ๆ นั้นสามารถเข้าไปรับชมได้ตามลิ้่งก์ต่าง ๆ นี้ ทั้งนี้ เนื่องจากเว็บไซต์ของเราไม่ใช่เว็บไซต์ใหญ่ และปริมาณรูปที่มีมหาศาล ทางเราจึงใช้วิธีการอัปโหลดรูปขึ้นผ่านทางบล็อกเกอร์ ผู้อ่านสามารถรับชมเนื้อหาได้ทั้งจากเว็บไซต์ของเราและจากบล็อกเกอร์ได้เลย
