ติดตามเรา
ข่าวสาร

MementoMori ครบรอบ 3 ปี กับเรื่องราวอบอุ่นของเฟนริลและเซอร์เบอรัส

MementoMori ได้ฉลองครบรอบเปิดบริการเกม 3 ปี ด้วยเนื้อหากิจกรรมอบอุ่นของสองพี่น้อง Fenrir และ Cerberus หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาอันโหดร้ายมา

MementoMori เกม AFK RPG งานศิลป์สุดละเมียดจาก Bank of Innovation เพิ่งผ่านพ้นหมุดหมายสำคัญ ครบรอบ 3 ปี ไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดตัวเกมก็ได้อัปเดตตู้กาชาใหม่ที่หลายคนรอคอย กับตัวละครน้องสาว [Treasured Candy] Cerberus ซึ่งตามติดพี่สาว [A Treasured Bond] Fenrir ที่อัปเดตเข้ามาก่อนหน้าในช่วงครึ่งแรกของอีเวนต์ การมาถึงของสองพี่น้องในเวอร์ชัน “Treasure” นี้ ถือเป็นบทสรุปที่สวยงามให้กับเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดของพวกเธอ

จากโศกนาฏกรรม สู่ “สมบัติล้ำค่า”

หากใครยังจำได้ เรื่องราวดั้งเดิมของสองพี่น้องคู่นี้ เฟนริล (พี่สาว ภาพซ้าย) และ เซอร์เบอรัส (น้องสาว ภาพขวา) ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดหลังถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง จนกระทั่งถูกอสูรโจมตี เซอร์เบอรัสระเบิดพลังสายฟ้าสีดำออกมาโดยควบคุมไม่ได้ และเข้าใจผิดว่าพลังนั้นได้สังหารพี่สาวของตัวเองไปแล้ว ความสิ้นหวังและรู้สึกผิดอันมหาศาลได้เปลี่ยนเธอให้กลายเป็น “แม่มดแห่งโคคิวทัส” ที่คลุ้มคลั่ง

แต่โชคดีที่เฟนริลยังไม่ตายและได้รับการช่วยเหลือจากมาสเตอร์ (ผู้เล่น) จนนำไปสู่ภารกิจฝ่าดงสายฟ้าเข้าไปกอดน้องสาว และดึงสติเธอกลับมาได้ในที่สุด

สำหรับเนื้อเรื่องอีเวนต์ครบรอบ 3 ปีในครั้งนี้ ได้เปลี่ยนจากความเจ็บปวดในอดีต มาเป็นความสุขในปัจจุบัน เมื่อวันเกิดของเซอร์เบอรัสเวียนมาถึง เฟนริลตัดสินใจที่จะทำ “ขนมแคนดี้” ให้กับน้องสาวด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นคำสัญญาที่เธอเคยให้ไว้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้อีกเลยนับตั้งแต่วันที่ถูกทอดทิ้ง ภารกิจลับๆ ล่อๆ ของพี่สาวที่แอบไปขอความช่วยเหลือจากเมอร์ลิน (Merlyn) จึงเริ่มต้นขึ้น เพื่อสร้าง “สมบัติ” ที่หอมหวานที่สุดให้กับน้องสาวอันเป็นที่รักของเธอ

สกิลและความสามารถเวอร์ชันใหม่

[A Treasured Bond] Fenrir (เฟนริล)

เธอมาในฐานะตัวละครสายซัพพอร์ต/บัฟเฟอร์เต็มรูปแบบ จากเนื้อเรื่องที่เธอต้อง “แบ่งปันความกล้า” ให้กับเซอร์เบอรัส สกิลของเธอจึงเน้นไปที่การสนับสนุนทีม ปกป้องพันธมิตรที่อ่อนแอที่สุด และมอบบัฟเพิ่มพลังโจมตีและความเร็วให้กับทีม เปรียบเหมือนพี่สาวที่คอยหนุนหลังและปกป้องน้องสาวจากแนวหลัง

[Treasured Candy] Cerberus (เซอร์เบอรัส)

น้องสาวผู้ได้รับความสุขกลับคืนมา คราวนี้เธอมาในฐานะตัวละครสายดาเมจ (DPS) ที่ทรงพลัง พลังของเธอไม่ได้มาจากความสิ้นหวังอีกต่อไป แต่มาจาก “ความสุข” และ “ความกล้า” ที่ได้รับจากพี่สาว สกิลของเธอเน้นการโจมตีที่รุนแรง และจะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเมื่อมีเฟนริลอยู่ในทีม ถือเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบทั้งในแง่เนื้อเรื่องและการใช้งานจริง

กิจกรรมครบรอบ 3 ปี (3rd Anniversary)

การเฉลิมฉลองครั้งใหญ่นี้ แน่นอนว่ามาพร้อมกับแคมเปญแจกหนักตามสไตล์เกมกาชา โดยสิ่งที่ผู้เล่นจะได้รับในช่วงกิจกรรมนี้ ได้แก่

  • ล็อกอินโบนัสสุดอลังการ: เพียงเข้าเกมต่อเนื่องก็จะได้รับเพชรและไอเทมจำนวนมาก
  • อีเวนต์พิเศษ ดันเจี้ยนกิจกรรมพิเศษให้ฟาร์มไอเทมแลกของรางวัลมากมาย รวมถึงเนื้อเรื่อง “Treasured” ของสองพี่น้องให้อ่านกันแบบเต็มๆ

MementoMori คือเกมอะไร?

สำหรับใครที่ยังไม่เคยสัมผัส MementoMori คือเกมมือถือแนว AFK RPG (Idle RPG) หรือที่เกมเมอร์ไทยเรียกว่า “เกมปล่อยจอย” ที่โดดเด่นอย่างสุดขีดในด้านงานศิลป์และเสียงเพลง

ระบบการเล่นหลักคือการจัดทีมตัวละคร 5 ตัว และปล่อยให้พวกเธอต่อสู้ฟาร์มทรัพยากรให้เราอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง จุดขายสำคัญที่ทำให้เกมนี้แตกต่างคือ งานศิลป์ Live2D ตัวละครทุกตัวในเกมมาพร้อมกับอนิเมชัน Live2D ที่สวยงามและลื่นไหลราวกับมีชีวิต และเพลง “Laments” ซึ่งเป็นที่สุดของเกม ตัวละคร “แม่มด” ทุกคน จะมีเพลงประจำตัว (Lament) ที่มีศิลปินคุณภาพขับร้องให้โดยเฉพาะ ซึ่งเพลงเหล่านี้จะถูกบรรเลงในหน้าจอหลักเมื่อเราเลือกตัวละครนั้นๆ

ด้วยคุณภาพงานศิลป์และดนตรีที่ทุ่มทุนสร้างนี้ MementoMori จึงได้รับรางวัลการันตีมาแล้วมากมาย เช่น รางวัล “Best Mobile Squad RPG from Japan” จาก Sensor Tower APAC Awards 2022 และรางวัล “Best Game Story: Grand Prize” จาก Google Play Best of 2023

ใครที่กำลังมองหาเกม AFK RPG ที่มีงานภาพและเสียงเพลงระดับมาสเตอร์พีซ MementoMori คือคำตอบที่ห้ามพลาด สามารถดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้งบน iOS และ Android

เนื้อเรื่องของสองพี่น้องเฟนริลและเซอร์เบอรัส ฉบับภาษาไทย

ณ โลกที่ถูกกัดกินด้วย “คำสาป” ผืนดินทั่วทั้งทวีปต่างแปดเปื้อน หายนะนี้ได้มอบพลังอันแปลกประหลาดให้กับเหล่าหญิงสาว ผู้คนขนานนามพวกเธอว่า “แม่มด”

ทว่าพลังนี้มิใช่พร หากแต่เป็นบ่วงแร้ว ศาสนจักรแห่งลองกินุส ผู้ยึดมั่นในความเที่ยงธรรม ได้ประกาศก้องว่าเหล่าแม่มดคือต้นตอของหายนะ “การล่าแม่มด” จึงเริ่มต้นขึ้น หญิงสาวผู้เปราะบางถูกไล่ต้อน ถูกประณาม และเมื่อใดที่ความเจ็บปวด ความสิ้นหวัง หรือโศกนาฏกรรมอันแสนสาหัสถาโถมเข้าใส่พวกเธอ พลังนั้นก็จะคลุ้มคลั่ง ทำลายล้างทุกสิ่ง กลืนกินแม้กระทั่งจิตใจของผู้ครอบครอง…

ท่ามกลางโลกอันโหดร้ายนี้ มีสองพี่น้องคู่หนึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด

เฟนริล ผู้เป็นพี่สาว ผู้ถือดาบ “เขี้ยวหมาป่า” อันเป็นของต่างหน้าบิดาไว้ในมืออย่างมั่นคง ดวงตาของเธอมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว สิ่งเดียวที่เธอยึดถือคือการปกป้องน้องสาวของเธอ และ เซอร์เบอรัสผู้น้อง ผู้อ่อนโยนและหวาดกลัวต่อพลัง “สายฟ้าสีดำ” ที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเธอ

ตราบใดที่พวกเธอยังมีกันและกัน โลกอันโหดร้ายนี้ก็ยังพอมีความหวัง

[โศกนาฏกรรม ณ ช่องเขา]

เสียงคำรามของอสูรร้ายดังแหวกอากาศ พวกมันคือผลพวงจากคำสาป สองพี่น้องถูกไล่ต้อนจนมาถึงทางตัน ณ ช่องเขาแห่งหนึ่ง

“หนีไป, เซอร์เบอรัส!”

เฟนริลตะโกน เธอผลักน้องสาวไปด้านหลังและยกดาบขึ้นตั้งรับ แม้จะหวาดกลัว แต่เธอก็คือพี่สาว เธอต้องปกป้อง

เซอร์เบอรัสมองแผ่นหลังของพี่สาวที่กำลังต่อสู้อย่างสิ้นหวัง ความกลัวจับขั้วหัวใจ… ความกลัวว่าจะสูญเสียพี่สาวไป พลังที่เธอพยายามกดข่มไว้ตลอด พลังที่เธอเกลียดชัง มันได้ระเบิดออกมา

“กรี๊ดดดดด!”

สายฟ้าสีดำทมิฬปะทุออกจากร่างของเซอร์เบอรัส มันรุนแรงยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ มันแผ่ขยายออกไปทุกทิศทาง ฉีกร่างของเหล่าอสูรจนแหลกสลาย… และกลืนกินทุกสิ่งในรัศมี

เฟนริลรู้สึกถึงแรงปะทะมหาศาล ร่างของเธอกระเด็นเหมือนใบไม้ที่ถูกพายุซัด เธอเห็นเพียงแสงสีดำสว่างวาบ ก่อนที่สติทั้งหมดจะดับวูบลง และร่วงหล่นหายไปในหุบเหวเบื้องล่าง

เมื่อพายุสายฟ้าสงบลง เซอร์เบอรัสลืมตาขึ้นมา ท่ามกลางความเงียบงัน…

ไม่มีอสูร… และไม่มีพี่สาว

“พี่คะ? พี่เฟนริล!”

เธอตะโกนเรียก แต่สิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงเสียงลมหวีดหวิว เธอมองไปรอบตัวอย่างตื่นตระหนก และสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นสิ่งหนึ่งที่ปักอยู่บนพื้นดินที่แตกระแหง…

มันคือด้ามดาบ “เขี้ยวหมาป่า” ที่แตกหัก

ในวินาทีนั้น ราวกับโลกทั้งใบของเซอร์เบอรัสก็พังทลาย

“ไม่… ไม่จริง…”

เธอล้มลงคุกเข่า มืออันสั่นเทาเอื้อมไปสัมผัสด้ามดาบนั้น

พี่… ถูกพลังของเรา…

“ฉัน… ฆ่าพี่สาว… ไป… “

หยดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มไม่ได้มาจากความโศกเศร้า แต่มันมาจากความรู้สึกผิดอันมหาศาลที่ฉีกกระชากจิตใจเธอเป็นเสี่ยง ๆ ความเจ็บปวดนั้นได้กลายเป็นตัวกระตุ้นชั้นยอด พลังสายฟ้าสีดำที่เคยสงบลง บัดนี้มันได้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์

“ข้า… คือสัตว์ประหลาด”


“เฮื๊อก………!”

เฟนริลตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่าง แต่ความเจ็บปวดทางกายนั้นเทียบไม่ได้กับความตื่นตระหนกในใจ

“เซอร์เบอรัส!”

เธอพยายามยันกายลุกขึ้น แต่ก็พบว่าตัวเองบาดเจ็บหนักเกินไป

“ที่นี่…?”

ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บแปล็บที่แล่นทั่วร่าง พลางพยายามลุกขึ้นจากเตียง

“ใจเย็นก่อน เธอได้รับบาดเจ็บหนักมาก”

เสียงทุ้มดังขึ้นได้เรียกความสนใจและสติของเธอ และเฟนริลหันไปพบกับคนผู้หนึ่ง ผู้มีดวงตาที่สงบนิ่ง…

มาสเตอร์ (ผู้เล่น)

เฟนริลจำได้ว่าเธอตกลงมาจากหน้าผา และคนผู้นี้คงจะช่วยเธอไว้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาขอบคุณ

“น้องสาวของฉัน! เซอร์เบอรัส! ฉันต้องไปช่วยเธอ!”

มาสเตอร์ส่ายหน้าช้า ๆ และเล่าความจริงให้เธอฟัง

“น้องสาวของเธอยังมีชีวิตอยู่… แต่เธอได้กลายเป็นแม่มดเสียแล้ว”

มาสเตอร์เล่าว่า พลังของเซอร์เบอรัสได้คลุ้มคลั่ง ณ ศาลเจ้าแห่งหนึ่งบนภูเขา และกำลังสร้างหายนะครั้งใหญ่ให้กับบริเวณโดยรอบ

เฟนริลนิ่งงัน คำพูดของมาสเตอร์ตอกย้ำความล้มเหลวของเธอ

มันเป็นเพราะเรา… เราปกป้องเธอไม่ได้…

ความรู้สึกผิดกัดกินหัวใจของเฟนริล ไม่ใช่ความผิดที่ทำร้ายน้อง แต่เป็นความผิดที่เธอ “อ่อนแอเกินไป” จนปกป้องน้องสาวในยามวิกฤตไม่ได้

“ฉันยัง… เข้มแข็งไม่พอ…” เธอกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ “ฉันสาบานไว้แล้วว่าจะปกป้องเธอ… แต่ฉันก็กลับ…”

น้ำตาของเธอกำลังไหลรินออกมา ความโศกเศร้า ความเจ็บปวด กำลังเอ่อล้นออกมา ตัวของเธอสั่นเทาจนไม่อาจควบคุมมันได้

“ยังไม่สาย” มาสเตอร์กล่าว “ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่”

คำพูดนั้นจุดประกายไฟในดวงตาที่เคยสิ้นหวังของเฟนริล

ใช่… เธอยังมีชีวิตอยู่…

… และฉันจะต้องไปช่วยเธอ

เฟนริลฝืนความเจ็บปวด ยันกายลุกขึ้น แม้จะโซซัดโซเซ แต่แววตาของเธอกลับมาเด็ดเดี่ยวอีกครั้ง

“ท่านมาสเตอร์… ฉันขอร้องล่ะค่ะ โปรดนำทางฉันไปยังที่ที่น้องสาวอยู่ด้วยเถิด”

แววตาของเธอมองดูเขาด้วยความมุ่งมั่นยิ่งกว่าเดิม ที่ไร้ซึ่งความกังวลใด ๆ อีก

“และครั้งนี้ ครั้งนี้… ฉันจะไม่ล้มเหลวอีก”


ณ ศาลเจ้าโบราณ สายฟ้าสีดำทมิฬฟาดฟันลงมาอย่างบ้าคลั่งราวราวกับไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย ใจกลางพายุนั้น ร่างของเซอร์เบอรัสลอยอยู่เหนือพื้นดิน ดวงตาของเธอเลื่อนลอยและว่างเปล่า พลังมหาศาลแผ่ออกมาจนบิดเบือนมิติโดยรอบ

เธอคือ “แม่มดแห่งโคคิวทัส” ผู้ถูกกักขังอยู่ในขุมนรกแห่งความรู้สึกผิดของตนเอง

ในห้วงคำนึงอันมืดมิด เซอร์เบอรัสไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เธอเห็นเพียงภาพสุดท้าย… ภาพที่พลังของเธอสังหารพี่สาวอันเป็นที่รักเพียงเท่านั้น

ข้ามันคือปีศาจ… ข้ามันสมควรตาย ศาสนจักร… รีบมาที่นี่สิ… มาลงทัณฑ์ข้า… มาฆ่าข้าที…

เธอปรารถนาความตาย เธอต้องการให้ใครสักคนมาหยุดยั้งตัวตนอันน่ารังเกียจนี้

“เซอร์เบอรัส!!”

เสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท…

เสียงที่คุ้นเคยนี่มัน… ภาพหลอนงั้นหรือ… เธอคิด

ขนาดตายไปแล้ว พี่ยังจะมาหลอกหลอนข้าอีกหรือ…

“เซอร์เบอรัส! ได้ยินพี่ไหม!”

เสียงนั้นดังขึ้นอีก คราวนี้ชัดเจนกว่าเดิม และมันไม่ได้ดังมาจากในหัว แต่ดังมาจากท่ามกลางพายุสายฟ้าที่เธอปลดปล่อยออกไป


เฟนริล มาสเตอร์ และเหล่าสหายแม่มดคนอื่น ๆ มาถึงศาลเจ้า พวกเขารับรู้ได้ถึงพลังงานอันตรายที่แผ่ออกมา

“นั่นคือ… น้องสาวของฉันเหรอ…” เฟนริลกล่าวเสียงสั่น เธอสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แผ่ออกมาจากพลังนั้น

“อันตรายเกินไป!” หนึ่งในสหายแม่มดตะโกนออกมา “ถ้าเข้าไปตอนนี้ โดนสายฟ้านั่นเข้าไป ได้แหลกเป็นผุยผงแน่!”

มาสเตอร์กำลังวางแผนที่จะฝ่าเข้าไป แต่เฟนริลไม่ต้องการรอ

เพราะเธอรู้… เธอรู้ดีว่าน้องสาวของเธอกำลังร้องไห้อยู่ เธอไม่ได้ตั้งใจ… เธอกำลังโทษตัวเองอยู่

“พี่ขอโทษนะ เซอร์เบอรัส… ที่ปล่อยให้เธอต้องเจ็บปวดอยู่คนเดียว!”

เฟนริลตัดสินใจในเสี้ยววินาที เธอออกวิ่ง… วิ่งตรงไปยังใจกลางพายุสายฟ้าสีดำนั้น โดยไม่ฟังคำทัดทานใด ๆ

“เฟนริล! ไม่ได้นะ!”

เปรี้ยง!

สายฟ้าเส้นหนึ่งฟาดลงมาเฉี่ยวร่างของเธอ

เปรี้ยง! เปรี้ยง!

สายฟ้าอีกหลายสิบเส้นฟาดลงมา ราวกับหอกที่พุ่งเข้าใส่ผู้บุกรุก ร่างของเฟนริลถูกสายฟ้าฟาดจนล้มลุกคลุกคลาน เสื้อผ้าขาดวิ่น มีรอยไหม้เกรียมปรากฏขึ้นทั่วร่าง

“อึก…!”

เธอเจ็บ… เจ็บจนแทบขาดใจ แต่เธอก็กัดฟันและยันกายลุกขึ้นเดินต่อ

ความเจ็บปวดแค่นี้… มันเทียบไม่ได้เลย… เทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดที่เซอร์เบอรัสต้องเผชิญ!

เธอลากสังขารที่ใกล้แหลกสลาย ฝ่าดงสายฟ้าที่บ้าคลั่งเข้าไป

ใกล้ขึ้น… ใกล้ขึ้น… จนในที่สุด เธอก็มาถึงตัวน้องสาวที่ลอยอยู่กลางอากาศ

เซอร์เบอรัสในสภาพแม่มดหันมามองผู้บุกรุก ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยยิ้มจางๆ นั้น

“พี่… เฟนริล…?”

เฟนริลไม่ตอบอะไร เธอใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ โผเข้าไปกอดร่างของน้องสาวไว้แนบอก เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่น… อบอุ่นเหมือนที่เคยเป็นมาตลอด

“พี่กลับมาแล้วนะ… เซอร์เบอรัส”

คำพูดเพียงสั้น ๆ นั้น คือทุกสิ่งที่เซอร์เบอรัสต้องการ

อ้อมกอดนี้… ความอบอุ่นนี้… มันคือของจริง

พี่สาวยังไม่ตาย… เธอยังไม่ได้ฆ่าใคร…

“พี่… เป็นพี่จริง ๆ ด้วย…”

พายุสายฟ้าสีดำที่บ้าคลั่ง… หยุดลงในทันที ราวกับว่าโลกได้หยุดหมุน พลังที่เคยคลุ้มคลั่งสงบลงราวกับไม่เคยเกิดขึ้น ท่ามกลางความโล่งใจของมาสเตอร์และสหายแม่มด

เซอร์เบอรัสปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น มันคือน้ำตาแห่งความเสียใจ ความรู้สึกผิด และความโล่งใจที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน

“พี่! ขอโทษค่ะ… หนู… หนูคิดว่า… หนูฆ่าพี่ไปแล้ว!”

เฟนริลลูบหัวน้องสาวเบาๆ แม้ว่าแขนของเธอจะแทบไร้ความรู้สึกแล้วก็ตาม

“ไม่หรอก… พี่แค่… ตกลงไปข้างล่างน่ะ… ขอโทษนะที่มาช้า”

แสงสว่างได้ส่องสาดทั่วบริเวณ เสียงร้องไห้ดังก้องไปทั่ว พร้อมกับความปลื้มปิติยินดีอย่างยิ่ง แม้รอบข้างจะเต็มไปด้วยซากปรักหักพังอันน่ากลัว แต่แสงสว่างอันอบอุ่นได้สาดส่อง ราวกับว่าความอบอุ่นได้มาเยือนแล้ว

เมื่อภารกิจลุล่วง ร่างกายของเฟนริลที่ทนรับบาดแผลมหาศาลก็มาถึงขีดจำกัด สติของเธอดับวูบลง และเธอก็ล้มลงในอ้อมแขนของน้องสาว


เมื่อเฟนริลตื่นขึ้นอีกครั้ง เธอก็พบว่าตนนอนอยู่บนเตียงนุ่ม โดยมีมาสเตอร์คอยดูแล และที่ข้างเตียง… เซอร์เบอรัสนั่งกุมมือเธอไว้แน่น ร้องไห้จนตาบวมช้ำ
“ตื่นแล้วเหรอคะ… พี่…”

ทั้งสองปรับความเข้าใจกันในที่สุด ความรู้สึกผิดที่กัดกินจิตใจของทั้งคู่ได้สลายไปจนหมดสิ้น เฟนริลรู้สึกขอบคุณมาสเตอร์จากใจจริง ที่ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตเธอไว้ แต่ยังมอบโอกาสให้เธอได้ช่วยชีวิตน้องสาวกลับมาด้วย

เซอร์เบอรัสเองก็เช่นกัน เธอตระหนักแล้วว่าพลังของเธอไม่ใช่คำสาป ตราบใดที่เธอมีพี่สาวอยู่เคียงข้าง และมีมาสเตอร์คอยนำทาง เธอก็จะเรียนรู้ที่จะควบคุมมัน… ไม่ใช่เพื่อทำลาย แต่เพื่อปกป้องพี่สาวที่รักยิ่งของเธอ

บัดนี้ สองพี่น้องผู้เคยพลัดพรากด้วยโศกนาฏกรรม ได้กลับมายืนเคียงข้างกันอีกครั้ง ภายใต้การนำของมาสเตอร์ พวกเธอได้เข้าร่วมการเดินทางในฐานะ “แม่มด” เพื่อยุติหายนะของโลก และเพื่อที่จะ…
….ไม่มีวันพรากจากกันอีกต่อไป

บทเนื้อเรื่อง “สมบัติ” อัปเดตล่าสุด เหตุการณ์หลังจากนั้น ภาษาไทย

[คำสัญญาและความมุ่งมั่น]

[มุมมองของ เฟนริล (พี่สาว)]

“ฉัน” ยังจำได้… ก่อนที่เราสองคนจะกลายเป็นแม่มด สมัยที่แม่ยังใจดีกับพวกเรา เวลามีเรื่องดีๆ หรือ “ฉัน” ช่วยงานเสร็จ แม่จะให้ขนมเป็นรางวัล รสหวานของมันเหมือนกับความสุข… สำหรับพวกเรา ขนมคือหลักฐานของเรื่องดีๆ

นั่นคือเหตุผลที่ทุกวันเกิดของเซอร์เบอรัส “ฉัน” จะทำขนมให้เธอเป็นของขวัญ

แต่… หลังจากที่ครอบครัวทอดทิ้งพวกเราไว้บนภูเขานั่น “ฉัน” ก็ไม่สามารถให้ขนมเธอได้อีกเลย…

เราจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นอีก! ปีนี้จะต้องแตกต่างออกไป! เพื่อชดเชยเวลาทั้งหมดที่ “ฉัน” ไม่ได้ให้ขนมเธอ “ฉัน” จะมอบขนมที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาให้เธอเอง!

เอาล่ะ… ได้เวลาพับแขนเสื้อลุยครัวแล้ว…


[มุมมองของ เซอร์เบอรัส (น้องสาว)]
.
ตั้งแต่เรามาอยู่ที่คฤหาสน์ของมาสเตอร์ ทุกวันก็มีแต่เรื่องสนุก และอีกไม่นานก็จะถึงวันเกิดฉันแล้ว! ฉันรู้เลยว่ามันจะต้องเป็นวันที่สนุกยิ่งกว่าวันนี้อีก! ตื่นเต้นจัง!

…วันนี้ ฉันเห็นอาร์ตี้กับรีเชสกำลังฉลองวันเกิดให้อาร์ตี้ เธอดูมีความสุขจัง… ทำให้นึกขึ้นได้… ตอนฉันยังเด็ก พี่สาวเคยทำขนมแคนดี้ให้ฉันในวันเกิดด้วย ฉันดีใจมากจนขอเพิ่มอีก เธอก็เลยสัญญาว่าจะทำให้ฉันทุกปี…

ฉันยังจำได้… เสียงน้ำตาลที่เคี่ยวในหม้อ… กลิ่นหอมหวาน… และใบหน้าจริงจังของพี่สาว… การได้เห็นเธอพยายามทำเพื่อฉัน มันทำให้ฉันมีความสุขมาก…

แต่… หลังจากที่เราถูกทิ้งบนภูเขานั่น… เธอก็ไม่เคยทำขนมแคนดี้นั่นให้ฉันอีกเลย บางที… เธออาจจะลืมสัญญานั่นไปแล้ว? ฉันจะไม่มีวันได้กินขนมแคนดี้ทำมือของพี่สาวอีกแล้วเหรอ…?

…เอ๊ะ? กลิ่นนี้… กลิ่นหอมหวานเหมือนตอนนั้นเลย… หรือว่า…?

[มุมมองของ เฟนริล (พี่สาว)]

ฉันลองทำมาหลายรสแล้ว… สตรอว์เบอร์รี แอปเปิล ครีม… แต่มันยังรู้สึกขาดอะไรไป…

เราอยากให้สิ่งที่พิเศษกว่านั้น… อะไรที่สวยงามเหมือนอัญมณี… และมีเวทมนตร์…

เวทมนตร์…? ใช่เลย!

ฉันมุ่งหน้าไปที่ห้องสมุด และก็เจอเธอจริง ๆ

“คุณเมอร์ลิน” ฉัน”รวบรวมความกล้าทั้งหมด “อ-เอ่อ… คุณเมอร์ลินคะ! ฉันมีเรื่องอยากขอร้อง…!”

…โชคดีจังที่คุณเมอร์ลินให้ยืมหนังสือเวทมนตร์ แถมยังให้ส่วนผสมมาด้วย! เราแค่ต้องหลอมส่วนผสมพวกนี้ แล้วใส่พลังเวทมนตร์ลงไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย… มันจะกลายเป็นขนมที่ส่องประกายตลอดกาล! เอาล่ะ! ลองทำน้ำเชื่อมอีกครั้ง!

[มุมมองของ เซอร์เบอรัส (น้องสาว)]

ฟุดฟิด… กลิ่นมาจากทางนี้!

ฉันตามกลิ่นจนมาถึงห้องครัว และก็เห็นพี่สาวยืนอยู่หน้าหม้อขนาดใหญ่บนเตา

“พี่! นั่น… ใช่สิ่งที่หนูคิดหรือเปล่าคะ…?”

“ฉันกำลังทำแคนดี้อยู่” เสียงของพี่เฟนริลตอบกลับมา

“หนูว่าแล้ว! หนูว่าแล้ว! ในที่สุดพี่ก็จำได้!” ฉันตอบด้วยความปลื้มปิติ

“แน่นอนสิ! ปีนี้ฉันจะให้แคนดี้สุดพิเศษกับเธอเลย เตรียมตั้งตารอได้เลยนะ” พี่สาวบอก

“ฮิฮิ เย้~! ดีใจจังที่จะได้กินแคนดี้ของพี่อีก! อ๊ะ! หนูรู้แล้ว! ให้หนูช่วยด้วยนะคะ! เมื่อก่อนหนูทำได้แค่นั่งมอง… แต่ปีนี้หนูอยากทำมันด้วยกัน!

“หือ? เธออยากช่วยทำเหรอ เซอร์เบอรัส? เธอ อยากจะทำของขวัญวันเกิดของตัวเองเนี่ยนะ…?” เฟนริลถาม

“ค่ะ! หนูอยากทำกับพี่! ได้ไหมคะ? นะคะ?!”

“ฮิฮิ แน่นอนอยู่แล้ว! งั้นมาทำด้วยกันเถอะ แต่ไฟมันอันตรายนะ ห้ามจับเด็ดขาด เข้าใจไหม?”

เซอร์เบอรัสได้เข้ามาช่วยคน แต่ดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่เธอคิด

“เอ่อ… แค่คนมันใช่ไหมคะ? อึ๊ก… มันไม่เข้ากันเลย…”

เราอยากจะช่วยพี่สาวบ้างแท้ ๆ แต่… มันไม่เป็นอย่างที่คิดเลย…

เซอร์เบอรัสคิดแบบนั้นด้วยความน้อยใจ

“ถ้าเธอคนแรงไป มันจะหกนะ! ดูนี่… ค่อยๆ คนเบาๆ แบบนี้”

พี่สาวใช้มือของเธอโอบทับมือของฉันแล้วช่วยคนทันที…

ว้าว! แคนดี้ที่แข็งๆ เมื่อกี้กลับคนง่ายขึ้นมาเลย! พี่สาวสุดยอดไปเลย! หลังจากคนเสร็จ พี่สาวก็เทแคนดี้ที่หลอมแล้วลงในหม้ออีกใบ

“เหลือแค่ใส่พลังเวทมนตร์ของพวกเราลงไปก็เสร็จแล้ว!” เฟนริลยิ้มอย่างร่าเริง

“เอ๊ะ? พลัง… เวทมนตร์…?”

[มุมมองของ เฟนริล (พี่สาว)]

“ใช่! มาทำด้วยกันนะ เซอร์เบอรัส… นับ…!”

ฉันหันไปมอง… แต่เซอร์เบอรัสกลับยืนบีบมือตัวเองแน่น

ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

อา… ใช่สิ… ในตอนนั้นเธอคิดว่าเธอฆ่าฉันด้วยพลังนั้น…

แต่มันไม่ใช่ความผิดของเธอ มันเป็นเพราะฉันต่างหาก

“ไม่เป็นไรนะ เซอร์เบอรัส”

ฉันคว้ามือที่สั่นเทาของเธอไว้

“ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ฉันแข็งแกร่งขึ้นแล้วด้วย…! ฉันจะไม่ยอมให้เธอร้องไห้อีกแล้ว ฉันอยากเห็นเธอยิ้มอย่างสดใสและไร้เดียงสาแบบนั้นตลอดไป… เพราะงั้น…!”

ทันใดนั้น แสงสว่างเล็ก ๆ ก็เริ่มเรืองรองจากมือของเราที่จับกัน นี่มัน… พลังเวทมนตร์ใหม่เหรอ…?

ฉันจำได้… ในหนังสือของเมอร์ลินบอกไว้ว่า—

“เมื่อเธอจับมือของคนที่สำคัญต่อเธอ หัวใจของพวกเธอจะประสานเป็นหนึ่ง และส่องแสงสว่างไสวยิ่งขึ้น” แสงสว่างของเราสองคนผสมผสานกันอย่างงดงาม ผูกมัดมือของเราไว้ด้วยกัน

ตอนนี้นี่แหละ “เรา” ต้องทำได้แน่!

“พี่สาว… นี่มันอะไรคะ…?”

“มันคือแสงสว่างของเราไง ของฉันและของเธอ… เซอร์เบอรัส!”

ฉันบีบมือเธอแน่นขึ้น

“เซอร์เบอรัส ฉันจะไม่ปล่อยมือเธอเด็ดขาด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะงั้น ไม่เป็นไรนะ เธอแค่ต้องใช้ความกล้าอีกนิดหน่อย!”

“ค่ะ… ถ้ามีพี่อยู่… ฉันก็ไม่เป็นไร…!”

เราสองคนยื่นมือที่ประสานกันไปยังหม้อที่กำลังเดือด แสงสว่างที่ผสมผสานกันของเราเทลงไปในหม้อ ส่องสว่างไปทั่วทุกสิ่งรอบตัว

เราค่อยๆ ลืมตาขึ้น… น้ำเชื่อมในหม้อเริ่มส่องประกายระยิบระยับ… เหมือนอัญมณี

“พี่สาว… นี่มัน…?”

“ใช่ เราทำสำเร็จ! แสงของเราสองคนรวมกัน… กลายเป็นแคนดี้ของเรา!”

มันสวยมาก… หยดเหมือนน้ำผึ้ง ราวกับเราหลอมแสงออโรร่าจากท้องฟ้ามาเลย… อ๊ะ! แย่แล้ว! ต้องรีบทำให้มันเย็น…!

ฉันตักน้ำเชื่อมประกายแสงทั้งหมดเทลงบนถาด

“เหลือแค่รอให้มันเย็นก็เสร็จแล้ว อ้อ… จริงสิ ฉันควรจะทำความสะอาดครัวระหว่างรอ… เธอไปพักก่อนเถอะ เซอร์เบอรัส…”

“หนูช่วยด้วยค่ะ!”

เซอร์เบอรัสบีบมือฉันไว้แน่น

“ทำอาหาร ทำความสะอาด… ทุกอย่างจะดีกว่าถ้าเราทำด้วยกันค่ะ พี่สาว!”

“นั่นสินะ! งั้นมาทำความสะอาดด้วยกันเถอะ!”

[มุมมองของ เซอร์เบอรัส (น้องสาว)]

“สุขสันต์วันเกิดนะ เซอร์เบอรัส!”

“ฮิฮิ~ ขอบคุณมากค่ะ ทุกคน!”

วันนี้คือวันเกิดของฉัน มีทั้งของขวัญกองโต อาหารอร่อยๆ การแสดงละครสัตว์ เกม… ทุกคนอวยพรวันเกิดให้ ฉัน มันสนุกมาก! แต่ส่วนที่ทำให้ฉันมีความสุขที่สุดก็คือ…

“เซอร์เบอรัส… สุขสันต์วันเกิดนะ!”

พี่สาว! เธอยื่นโหลแก้วที่บรรจุแคนดี้เวทมนตร์ที่เราทำด้วยกันมาให้

“ว้าว! มันระยิบระยับสวยจังเลยค่ะ!”

มันคือสมบัติหนึ่งเดียวในโลก… ไม่สิ… สมบัติ “ของเรา”

“ขอโทษนะที่ไม่ได้ทำให้เธอกินจนถึงป่านนี้ แต่จากนี้ไป ฉันจะทำให้เธอกินทุกปีเลย!”

“ถ้างั้น เรามาทำด้วยกันอีกนะคะ! ปีหน้า… แล้วก็ปีต่อๆ ไป… ตลอดไปเลย!”

ฉันล้วงเข้าไปในโหล และหยิบแคนดี้สองชิ้นที่ติดกันออกมา มันดูเหมือนฉันกับพี่สาวเลย เรามองหน้ากันแล้วยิ้ม แบ่งแคนดี้กัน ในมือฉันคือแคนดี้สีฟ้าเหมือนพี่สาว… ในมือเธอคือแคนดี้สีเขียวเหมือนฉัน…

ส่วนรสชาติ… มันคือแคนดี้ที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่ฉันเคยกินมา…

…มีความหวานที่เหมือนกับความสุข…

ฮิฮิ! พี่สาว… ฉันรักพี่… ที่สุดในโลกเลย!

Leave a comment

ปิดโหมดสีเทา